Meeting Party ทุกศุกร์แรกของเดือน ณ iOffice หน้ากองบิน 41 เชียงใหม่

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Re: makeup.pho.to l เสกให้สวย/หล่อเลือกได้ในคลิกเดียว

เอกสารนี้ถูกนำเข้ามายัง Google Documents ในชื่อของคุณ:
http://docs.google.com/Doc?id=dcgbc9mf_150qm676dw&invite=
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ทีม Google Documents

makeup.pho.to l เสกให้สวย/หล่อเลือกได้ในคลิกเดียว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์28 สิงหาคม 2552 17:08 น.
ภาพซ้ายคือภาพก่อนใช้เว็บแต่งหน้า เห็นชัดเลยว่าแค่คลิกเดียว ก็ช่วยลดอายุไปมาก
       

       เมื่อ 2 ปีก่อน เคยมีโฆษณาชิ้นหนึ่งที่ดังและเป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั่ววงการอินเทอร์เน็ต ที่เปิดเผยความลับของเบื้องหลังที่มาของความสวยงามแบบฉับพลันด้วยฝีมือของเมคอัพอาร์ททิส และ ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ กราฟิกมือโฟโต้ช้อบ ที่เพียงแค่บรรจงถูไถไอค่อนรูปยางลบ จากนั้นโบกด้วยฟิลเตอร์สร้างภาพเบลอๆ (Blur tool) ลงไปอีกชั้นก็สร้างความงามอย่างมหัศจจรย์ขึ้นได้ทันตา
       
       และนี่คือภาพเบื้องหลังของสารพัดขั้นตอนก่อนจะได้มาซึ่งความสวยระดับ Cover Girl
       
       
       
       และปัจจุบัน นวัตกรรมล่าสุดบนโลกเราใบนี้ ที่ทำให้เกิดภาพดาราสวยหล่อบนหน้าหนังสือพิมพ์ มีสาเหตุแห่งการรังสรรค์ความงามแบบฉับพลันจาก 2 ช่องทางใหญ่ๆ นั่นคือ การแต่งหน้าทำผม และ การถูไถรูปยางลบ (Eraser) บนโปรแกรมโฟโต้ชอป
       
       แต่วันนี้เรามีวิธีที่จะทำให้ทุกภาพของคุณสวยงามประดุจดารา ด้วยเว็บไซต์ตกแต่งภาพใบหน้าของบุคคลให้เนียนสวย เป็นธรรมชาติแบบไม่ต้องเจ็บตัว และเปลืองเงินทำศัลยกรรม ที่สำคัญใช้งานง่ายเพียงคลิกเดียว
       
       makeup.pho.to คือ เว็บไซต์แต่งภาพบุคคล ตลอดทั้งใบหน้า ทาตา ผลัดผิวให้เนียนกระจ่าง และใส ทำฟันขาว ลบรอยย่น รอยตีนกา รอยแผลเป็น และสิวได้ทั้งหมดในคลิกเดียว ที่สำคัญไม่ต้องสมัครสมาชิกใดๆ ให้เสียเวลาด้วย
        

ระบบจะดูจุดอ่อนบนใบหน้า แล้วจัดการลบทิ้งแบบเนียนๆ
       

       วิธีการแต่งหน้าด้วย makeup.pho.to เพียงแค่เลือกภาพจาก 2 แหล่งได้แก่...
       
       1. ภาพที่มีอยู่ในคอมพ์ (กดปุ่ม Browse) หรือ...
       2. ใช้ภาพที่มีอยู่ตามอินเทอร์เน็ต อาจจะเป็นภาพที่เราอัปขึ้นไปยังเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคมออนไลน์อย่าง Hi5, Facebook, ก็ได้

       

       จากนั้นก็รอสักพักให้ระบบจัดการกับภาพของคุณทางด้านล่างของจอ และถ้าพอใจแล้วก็บันทึกลงเครื่อง (Save to disk) หรือส่งไปอวดเพื่อน (Share) ซึ่งจะมีโค้ดสารพัดแบบให้คุณคัดลอกไปวางยังบล็อก หรือเว็บบอร์ดได้

       

       ลองเอาใจคุณแม่คุณ คุณปู่คุณย่า ด้วยการอัดภาพที่แต่งด้วย makeup.pho.to แล้วใส่กรอบให้ท่านเป็นของขวัญวันเกิด ก็เชื่อว่าจะสร้างรอยยิ้มในครอบครัวได้มากทีเดียว

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Updating my calendar

Hello

Click on the link below and please enter your birthday for me. It will take less than one minute.

http://www.birthdayalarm.com/bd2/85566062a673291421b1477833044c548083582d1386

Thank You,
Orarick

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Re: กอด

เอกสารนี้ถูกนำเข้ามายัง Google Documents ในชื่อของคุณ:
http://docs.google.com/Doc?id=dcgbc9mf_149d26tr4fc&invite=
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ทีม Google Documents

กอด

เคยสังเกตไหม... เวลาคุณ *"กอด" *ใคร 
คุณมักซบไปทางด้านซ้ายของอีกฝ่าย 
อาจเป็นเพราะนั่นคือตำแหน่งที่ตั้งของหัวใจ 
หากคุณ *"กอด"* เขาไว้นานเพียงพอ 
จังหวะการเต้นของหัวใจ 
ดวง ก็จะเปลี่ยนเป็นจังหวะเดียวกัน ในที่สุด  
 
 
Have you notice…… how do you feel when you Hug the person?
 
You often lean on the left side of the person
 
Maybe it’s place for the person’s heart
 
If you Hug the person for a while
 
Finally………Both of your heart beat will beat as the same rhythm 



*"
กอด"* คือเสื้อกันหนาวที่มีหัวใจ 
*Hugging* is a jacket which has a heart. 


ถึงแม้คอมพิวเตอร์จะทำได้แทบทุกอย่าง แต่ข้อเสียของมันก็คือ ลุกขึ้นมา *"กอด"* คุณไม่ได้ 

Although a computer can do almost everything but certainly, it cannot give you *?a hug?*. 


ถ้าวันหนึ่งไม่มีเธอให้ *"กอด"* แล้วฉันจะโทษใครได้
 ? 
If one day you are not here to *hug*, who else should I blame? 

 



*"
กอด"* คือ การแสดงความเป็นเจ้าของที่น่ารัก ? 
*Hugging* is a cute expression between lovers.
 
 

march07 083xx.jpg



แม้ชีวิตนี้คุณจะมีใครให้
 *"กอด"* แม้เพียงคนเดียว นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการดำรงชีวิต ? 
Even though you?ve got only one person in your life to *hug*, that?s enough. 

 

100457997.gif


*"
กอด"* คือ การได้ให้และการได้รับพร้อม ๆ กัน 
*Hugging* is at the same time, the giving and receiving. 




ในอนาคต *"กอด"* อาจหายากพอ ๆ กับเวลา 
? 
In the near future, *?hug?* might be as hard to find as ?time?. 



motherchildsleeping.jpg
 

*"
กอด"* ทำให้รู้ว่าเมื่อหัวใจอีกดวงมาเต้นอยู่ที่อกด้านขวาบ้างจะเป็นไง ? 
*Hugging* displays that ?there will be a heart beat of others which keeps beating while you hug? 

 

100457995.jpg


เมื่อคุณถูก *"กอด"* คุณจะตัวเล็กลง
 ? 
When you are being *hugged*, you will be smaller. 

 

hug-me-bear-winnie.jpg


แต่เมื่อคุณ *"กอด"* คนอื่น คุณจะตัวใหญ่ขึ้น 

BUT When you *hug* someone, you will be bigger. 

 

E91~Bear-Hug-Posters.jpg


*"
กอด"* คือคำว่า "ฉันอยู่นี่" ? 
*Hugging* is ? I am here?. 

 

funny-pictures-kitten-hug.jpg


*"
กอด"* ทำให้รู้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก ? 
*Hugging* displays that we are not alone in the planet. 

 

100457996.jpg


ภาษาพูดแทนความรู้สึกได้ดี แต่สำหรับบางเวลา *"กอด"* อาจเป็นตัวช่วยที่ดีกว่า 
? 
Speaking is the good way of feeling communication 
but sometime *?hug?* might be a better assistance.
 
 

Bear_Hug_by_elultimodeseo.jpg

*"
กอด"* คือ การแลกเปลี่ยน "ความลับทางอารมณ์" ระหว่างกัน
*Hugging* is the exchange of two people? secret feelings and emotions. 

 

17713_328471.jpg


*"
กอด"* ช่วยสลายทิฐิบางอย่างในใจเรา ? 
*?Hugging?* disintegrates some conviction in our minds. 

 

1206740506885.gif



เมื่อคุณกลับบ้าน สิ่งที่ควรทำหลังจาก 
?สวัสดีคือ เข้าไป *"กอด"* คนที่คุณรัก ? 
When you are arrived home, thing you should do besides saying ?hello? is *hugging* the one you love.
 
 

1154590661.jpg


บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่าเราต้องการ *"กอด"* มากแค่ไหน จนกว่าจะได้เห็นคนอื่นเค้ากอดกัน 
? 
Sometime you may not realize to *hug* someone, once you observe it from others. 

 

1210838867.jpg


*"
กอด"* คือ ทางสายกลางของการแสดงออกซึ่งความรัก ? 
*Hugging* is a mind average of expression. 

 

hug-2.jpg


*"
กอด"* คือ การเต้นรำในจังหวะเดียวกัน ? 
*Hugging* is the some rhythm of heart beating. 

 

Tiger Hug.jpg
 


*"
กอด"* ทำให้รู้ว่ายังมีคนอ้วนกว่าเรา ? 
*Hugging* defines that ?there will be someone who has more weight than you?. 

 

Bear_Hug-1600x1200.jpg
สุดท้ายแล้วคนเราก็ต้อง *"กอด"* ตัวเองในที่แคบ ๆ 

 

HugMe.jpg1.jpg
 
วันนี้คุณกอดใครแล้วหรือยัง 
? 
 
 
 
เลิกงานไปจะต้องกลับกอดแม่อีกแน่นอนของตายอยู่แล้ว  

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Be grateful with what you have.


น้องเกวียนฮงหยาง จากประเทศจีน สูญเสียขาในอุบัติเหตุ 

ครอบครัวของเธอยากจนเกินกว่าจะหาขาเทียมให้น้องได้
จึงต้องดัดเเปลงลูกบาสเกตบอลเพื่อหนุนช่วงตัว และต่อไม้สองชิ้นถือไว้เพื่อใช้ในการก้าวแทนขา
เธอใช้ลูกบาสจนเก่าพังไปแล้วถึงหกลูก
แต่เธอก็ยังคงร่าเริงและยิ้มได้...
The smiling crippled girl
แม้จะพิการแต่เธอยังคงยิ้ม

Qian HongYan lost her legs in an accident
[]

Her family in China are poor and couldn't afford prosthetic legs, so she uses a basketball to help her move. 

[]

Qian uses two wooden props to drag herself, and never complains, even though she has worn through six basketballs. 

[]

She attends her class

[]
She always smiles
 
Always smiling
[]
 

Always cheerful
[]

always positive

With your help she is now able to afford a pair of prosthetic legs. 


[]
[]e
[]
[]

Please forward to all your friends. AOL will donate 10cents for every address you forward to a special fund to help people like HongYan.

Smile always

Be grateful with what you have. 

 

 ทุกการส่งต่อฟอร์เวิร์ดเมล์นี้เธอจะได้รับ 10 เซ็นต์

($1 = 100 cent   = 30 Baht โดยประมาณขั้นต่ำ ดังนั้น 1 บาท เท่ากับ 3.33 เซ็นต์--ผู้แปล)

ซึ่งตอนนี้การคลิกส่งของพวกคุณทำให้เธอได้ขาเทียมคู่นั้นมาแล้ว

 

 

จงใช้ชีวิตอย่างเริงร่า ยิ้มสู้อุปสรรคและปัญหา เพราะสิ่งที่คุณเผชิญน้อยนักเมื่อเทียบกับผู้สูญเสียทั้งโอกาส และอวัยวะอีกหลายคน

 

จงดีใจที่อย่างน้อย แม้จะถูกเจ้านายบ่น เพื่อนร่วมงานนินทา แต่คุณก็ยังมีแขน ขา สติปัญญาบริบูรณ์

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Re: เธอ ชื่อ ' คิม ฟุค

เอกสารนี้ถูกนำเข้ามายัง Google Documents ในชื่อของคุณ:
http://docs.google.com/Doc?id=dcgbc9mf_105d2d967g8&invite=
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ทีม Google Documents

เธอ ชื่อ ' คิม ฟุค


 


   
เธอ ชื่อ  ' คิม ฟุค '
(
Kim Phuc is Her Name)
แปลว่า 'ความสุขดุจทองคำ'
 (Golden Happiness)


1972napalmnow.jpg
เบื้องหน้าของ คิม ฟุค


เบื้องหลังของ คิม ฟุค


เบื้องหลังผ่าตัดแล้ว ๑๗ ครั้ง ขณะที่ลูกพี่ลูกน้อง ๒ คนตายเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว


เธอเกิดที่ Trang Bang  ตะวันตกเฉียงเหนือกรุงไซ่ง่อนในเวียตนามใต้ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๖


เวลา  บ่าย ๒ โมง     วันที่  ๘ มิถุนายน ๒๕๑๕  ระเบิดไฟนาปาล์ม ๔ ลูก ถูกทิ้งลงที่บ้านเธอ




ขณะนั้น คิม ฟุค มีอายุ ๙ ขวบ ระเบิดเพลิงตกใส่เธอ เธอถอดเสื้อผ้าที่ไฟกำลังลุกออกแต่ไฟยังคงไหม้บนตัวเธอ


ผู้คนช่วย ราดน้ำบนตัวเธอ   เพื่อดับไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่บนตัวเธอ  จนเธอหมดสติไป


Huynh Cong (Nick) Ut
ช่างภาพ ช่วยพาเธอส่งโรงพยาบาล คอยให้กำลังใจ  และจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือ


ภาพของเธอ  ที่ Nick Ut ถ่ายไว้  ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกและได้รับรางวัล Pulitzer ในปีถัดมาคือ พ.ศ. ๒๕๑๖

alan-downes-kim-phuc-itn-vietnam-napalm.jpg
ด้วยรางวัลดังกล่าวช่วยเปลี่ยนชีวิตของเธอและ Nick Ut   แต่เธอต้องทนทุกข์ทรมานจากบาดแผล
ไฟไหม้กว่าครึ่งตัว  หมอศัลยกรรมพลาสติค  Dr. Mark Gorney  จาก  San Francisco
อาสาสมัครประจำอยู่ที่ โรงพยาบาลศัลยกรรมเด็ก Barksy ในกรุงไซ่ง่อนกล่าวว่า 'เธอไม่น่าจะ
อยู่รอดได้ ตอนแรกคางของเธอเชื่อมติดกับหน้าอกโดยเนื้อเยื่อจากแผลเป็นแขนซ้ายของเธอไหม้
จนถึงกระดูก'  ด้วยความรักของแม่ที่คอยดูแลอยู่ข้างเตียง เธอค่อย ๆ ฟื้นตัวและตัดสินใจว่าโตขึ้น
เธอจะเป็นหมอเหมือนผู้ที่ช่วยชีวิตเธอ  หลังจากรักษาตัวอยู่ ๒ ปีเธอจึงได้กลับบ้านและเวียตนาม
ใต้ก็ถูกปกครองโดยคอมมิวนิสต์ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๘     ชื่อของกรุงไซ่ง่อนถูกเปลี่ยนเป็นโฮจิมินห์


๒๑ ปีต่อมา พ.ศ. ๒๕๓๙
คิม ฟุค ได้มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าชาวอเมริกัน ซึ่งเคยผ่านสมรภูมิเวียดนาม เธอได้รับเชิญให้มาพูด
เนื่องในวันทหารผ่านศึก ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.


เธอได้มาเผชิญหน้ากับบุคคล    ซึ่งครั้งหนึ่งได้เคยมาทำลายบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ  ทำให้
ญาติพี่น้องของเธอต้องตาย  และเกือบฆ่าเธอให้ตายไปด้วยนั้น  ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ทำใจได้ง่าย
แต่เธอมาก็เพื่อจะบอกให้พวกเรารู้ว่า   สงครามนั้นได้ก่อความทุกข์ทรมานแก่ผู้คนอย่างไรบ้าง


คิม ฟุค เล่าถึงประสบการณ์อันเจ็บปวดของเธอแล้วเธอก็ได้เผยความใน
ใจว่ามีเรื่องหนึ่งที่เธออยากจะบอกต่อหน้านักบินที่ทิ้งระเบิดใส่หมู่บ้าน
ของเธอ


พูดมาถึงตรงนี้  ก็มีคนส่งข้อความมาบอกว่า  คนที่เธอต้องการพบ
กำลังนั่งอยู่ ในห้องประชุมนี้      
เธอจึงเผยความในใจ  ออกมาว่า
'
ฉันอยากบอกเขาว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้
แต่เราควรพยายามทำสิ่งดี ๆ   เพื่อส่งเสริมสันติภาพ ทั้งใ นปัจุบัน
และอนาคต'


เมื่อเธอบรรยายเสร็จ  ลงมาจากเวที  อดีตนักบินที่เกือบฆ่าเธอก็มายืนอยู่เบื้องหน้าเธอ เขามิใช่ทหาร
อีกต่อไปแล้ว  แต่เป็นศาสนาจารย์ประจำโบสถ์แห่งหนึ่ง


เขาพูด  ด้วยสีหน้าเจ็บปวด ว่า
'
ผมขอโทษ ผมขอโทษจริงๆ'


คิม เข้าไป โอบกอดเขา   แล้วตอบว่า
'
ไม่เป็นไร ฉันให้อภัย ฉันให้อภัย'


ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะให้อภัย      โดยเฉพาะกับคนที่ทำร้ายเรา
ปางตาย       คิมฟุคเล่าว่า  เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความทุกข์ทรมาน
แก่เธอทั้งกายและทั้งใจ     จนเธอเอง     ก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
ได้อย่างไร


แต่แล้ว เธอก็พบว่า   สิ่งที่ทำร้ายเธอจริงๆ  มิใช่ใครที่ไหน  หาก
ได้แก่ความเกลียดชังที่ฝังแน่นในใจเธอนั่นเอง


'
ฉันพบว่า   การบ่มเพาะความเกลียดเอาไว้  สามารถฆ่าฉันได้ '

เธอพยายามสวดมนต์  และแผ่เมตตาให้ศัตรู และแก่คนที่ก่อความทุกข์ให้เธอ
แล้วเธอก็พบว่า
'
หัวใจฉันมีความอ่อนโยนมากขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้ฉันสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องเกลียด'
เราไม่อาจควบคุมกำกับผู้คน   ให้ทำดี  หรือไม่ทำชั่วกับเราได้  
แต่เราสามารถควบคุมกำกับจิตใจของเราได้


เราไม่อาจเลือกได้ว่า รอบตัวเราต้องมีแต่คนน่ารัก พูดจาอ่อนหวาน
แต่เราสามารถเลือกได้ว่า  จะทำใจอย่างไร เมื่อประสบกับสิ่งไม่พึงปรารถนา
คิมฟุค ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองว่า
'
ฉันน่าจะโกรธ แต่ฉันเลือกอีกทางหนึ่ง แล้วชีวิตฉันก็ดีขึ้น'

บทเรียนของคิมฟุค  คือ
ในเมื่อเราเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ เราจึงไม่ควรปักใจอยู่กับอดีต
แต่เราสามารถเรียนรู้จากอดีตเพื่อทำปัจจุบันและอนาคตให้ดีขึ้นได้
บทเรียนจากอดีตอย่างหนึ่งที่เธอได้เรียนรู้มาก็คือ  
การอยู่กับความโกรธ เกลียด และความขมขื่น นั้น
ทำให้เธอเห็นคุณค่าของการ ให้ อภัย.