ปล่อยวางก่อนนอน
ปกติก่อนนอนคุณทำอะไรบ้าง ห้ามบอกเชียวว่า … คิดโน่นคิดนี่ เพราะไม่ใช่ชั่วโมงทำงานที่จะต้องคอยให้ความคิด นี่เป็นเวลาพักผ่อนของคุณนะ หากจะคิดก็คิดแค่วันนี้ทำอะไรมาบ้าง พรุ่งนี้จะทำอะไร อย่าทำให้ตัวเองยุ่งยากใจก่อนนอน เพราะมันเป็นเครื่องบั่นทอนความสุขและชีวิตประการหนึ่ง จะให้ดีควรนั่งสมาธิสัก 20 นาที แล้วแผ่เมตตาใจจะยิ่งสงบ พร้อมต่อการพักผ่อนอย่างยิ่ง
อย่าบังคับตัวเอง
อย่าไปกะเกณฑ์ตัวเองเลยว่าจะต้องนอนให้ครบกี่ชั่วโมง เพราะร่างกายมีกลไกการตื่นตามธรรมชาติ เพียงกำหนดรู้เท่านั้นว่าต้องตื่นกี่โมงเป็นชีวิตประจำวัน บางคนต้องคอยนั่งนับว่าจะครบ 8 ชั่วโมงไหม ได้สัก 6 ชั่วโมงไหม แม้จะมีค่าเฉลี่ยว่าคนเราควรนอนแค่ไหนจึงจะเต็มอิ่ม แต่เอาเข้าจริง หากจะเอาตัวเลขก็นอนให้ได้สัก 5-6 ชั่วโมงก็แล้วกัน แต่ทั้งหมดต้องทำให้เป็นปกติ ไม่ใช่บังคับตัวเอง
สะอาดพอจะนอนหรือยัง
มนุษย์งานทั้งหลาย แม้ภาระกิจจะรัดตัว (จนกิ่ว) มาตลอดทั้งวันเหน็ดเหนื่อยปางตาย ก็ต้องไม่ลืมชำระล้างตัวเองให้สะอาดก่อนนอน นอกจากจะกำจัดคราบเหงื่อไคล ไขมัน และฝุ่นที่เคลือบผิวออกไปแล้ว บรรดาจุลินทรีย์เพื่อนรัก ที่รายล้อมรอบตัวก็จะลดจำนวนลง โอกาสเป็นโรคผิวหนังยากยิ่ง
คุณผู้หญิงรักสวยรักงามน่ะดีแน่
แต่ก่อนนอนไม่จำเป็นต้องชโลมมอยส์เจอรไรเจอร์เพื่อบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นก็ได้โดยเฉพาะรอบดวงตา เพราะขณะที่นอน ของเหลวรอบตามีระดับสูงพอที่จะทำให้คุณตาบวมตอนเช้าเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเพิ่มให้มันอีก หากตัดใจไม่ได้ ให้ทาเสียก่อนนอน 20 นาทีแล้วซับออก
ส่วนเด็ก ๆ ทั้งหลายอย่าลืมแปรงฟันให้สะอาดก่อนนอนนะจ๊ะ เพราะขณะหลับเป็นเวลาหลายชั่วโมงนั้น จุลินทรีย์ในปากพร้อมที่จะทำงานโดยการดื่มกินเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน เหงือกและลิ้นอย่างอิ่มเอม เช้าตรู่กลิ่นปากอาจโชยจนคนอื่น ๆ ทนไม่ได้ ในระยะยาวเคลือบฟันจะเสีย ผุ และหมดอายุก่อนแก่ อยากอายุยืน แต่ฟันฟางไม่เหลือจะอยู่อย่างมีความสุขได้เรอะ!!
สำคัญที่ท่านอน
การนอนไม่ใช่สักแต่ว่าข่มตาลงหลับและกุลีกุจอตื่นขึ้นประกอบภารกิจของวันใหม่ เพราะท่าที่นอนก็มีส่วนสำคัญ;ต่อการทำงานของระบบหายใจ ระบบสูบฉีดโลหิต และระบบประสาทอัตโนมัติอื่น ๆ ของร่างกายไม่ได้หลับไปด้วย
ท่านอนที่ดีที่สุดคือ นอนหงายเหยียดยาวในชุดที่ไม่ต้องรัดติ้วจนหายใจหายคอไม่ออก หนุนหมอนด้วยความสูงพอดี ให้ลำคอเหยียดตรงหากใช้หมอนข้างเล็กหนุนใต้คอแทนศีรษะได้ ยิ่งเป็นการดี เหยียดแขนออกห่างจากตัวเล็กน้อย ปล่อยสบาย ๆ ไม่เกร็งหรือไม่ก็ยกขึ้นไปเหนือศีรษะ งอข้อศอกเล็กน้อย จะช่วยให้การหายใจและการสูบฉีดโลหิตดี กระดูกสันหลังที่เหยียดตรงทำให้ร่างกายแข็ง ท่านอนหงายเต็มตัวทำให้อวัยวะในช่องท้องอยู่สบายในที่ทางของมันไม่ต้องเบียดเสียดเยียดยัดหรือกองออกันอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง
นอนคว่ำไม่ดีแน่
อย่างแรกคือหายใจไม่สะดวก เป็นเหตุให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยอาจเพลียในตอนตื่น กล้ามเนื้อส่วนท้องกับเชิงกรานก็ถูกบีบ หัวใจถูกกดทับ กระดูกสันหลังแอ่นผิดรูป กล้ามเนื้อคอบิดเกร็ง แถมเพิ่มรอยย่นตามแก้ม คอ และรอบดวงตาอีกด้วย
นอนตะแคง
พอใช้ได้โดยเฉพาะสำหรับคนช่างกรนทั้งหลาย ท่านอนตะแคงที่ดีที่สุดควรมีหมอนข้างรองรับขา ด้านบน โดยตะแคงด้านขวาลงกับที่นอน หัวใจจะสูบฉีดโลหิตได้ง่ายกว่าเอาด้านข้างลงพื้น แต่ท่านี้มีส่วนเพิ่มรอยย่นบนใบหน้า คอ และเอว อาจทำให้หลังโก่งตอนแก่ได้เหมือนกัน
ห้ามนอนคลุมโปงเชียวนะ
เพราะจะทำให้คุณขาดอากาศหรือไม่ก็ต้องเทียวสูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่พ่นออกมากับลมหายใจกลับเข้าปอดอีกรอบ หัวใจต้องทำงานหนัก เลือดก็ได้รับออกซิเจนไปแลกเปลี่ยนของเสียไม่เพียงพอ เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง
ในกรณีที่หวัดเล่นงาน หายใจไม่สะดวก ให้นอนโดยยกอกและไหล่สูงขึ้นหน่อย ใช้อะไรก็ได้ หนุนหัวเตียงให้ยกสูงขึ้นเพื่อให้ศีรษะตั้งสูงกว่าตัวเวลานอน (เหมือนเตียงปรับได้ในโรงพยาบาลไงล่ะ)
ที่นอนหนาและนุ่มนิดหน่อยพอใช้ได้
ไม่ควรนุ่มมาก บางคนว่านอนกับพื้นแข็งอย่างไม้กระดานยิ่งดี เพราะหากนุ่ม หยุ่น ขณะนอนหลังจะงอโค้ง มีผลให้เกิดอาการปวดหลังได้
เรื่องของการนอนหลับให้สนิทเป็นสิ่งมีค่ายิ่งของชีวิต ไม่ใช่เรื่องยาก หากสร้างอุปนิสัยในการนอนให้ดีพอ แต่บางคนกลับใช้ที่นอนเป็นเตียงสำหรับครุ่นคิดเครียดจนถึงกับต้องพึ่งหมอพึ่งยา
ใจคุณเป็นหมอที่ดีที่สุด
ก่อนนอนหากรู้จักปล่อยวางและรักตัวเองให้มากขึ้นอีกนิด ก็จะเห็นคุณค่า และไม่รู้ว่าจะสละเวลาเช่นนี้ให้แก่ความเครียดทำไม
พยายามนอนให้ตรงเวลาทุกวัน
ระบบร่างกายจะได้เคยชิน ถึงเวลาจะเริ่มง่วงและกำหนดให้เราหลับได้โดยปริยาย
คนที่หลับยาก กรุณาอย่าใช้เตียงเป็นที่อ่านหนังสือ พร่ำบ่น คร่ำครวญ หรือดูโทรทัศน์เป็นอันขาด เตียงนอนควรใช้เป็นที่นอนอย่างเดียว เพราะนักจิตวิทยาเขาศึกษาแล้วว่า หากทำอย่างนี้สิ่งแวดล้อมจะช่วยกำหนดจิตใต้สำนึกของเราให้รับรู้ทันทีที่หลังถึงเตียงหัวถึงหมอน จะหลับลงได้ราวกับปิดสวิตซ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น