|
ตอนนี้ชาวเน็ตทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าหากต้องการจะส่งไฟล์ใหญ่ๆ ระดับกิกะไบต์ไปให้ใครสักคน การแนบไปกับอีเมล์เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จึงต้องหันไปพึ่งบริการ "เว็บฝากไฟล์ (File Hosting)" ซึ่งก็มีทั้งของไทยและของนอก แต่สิ่งที่เป็นคุณลักษณะที่เหมือนๆ กันของเว็บฝากไฟล์ที่ฟรี ก็คือ หน้าตาของเว็บทุกส่วนปกคลุมไปด้วยโฆษณาทั้งแบบรูปและแบบตัวอักษร ทำให้มือใหม่มึนไปหมด และก่อนจะดาวน์โหลดก็ต้องรอเคาท์ดาวน์เกือบนาที แต่ยังไงโลกใบนี้ ก็มีของดีและฟรีอยู่อีกมาก เฉกเช่นเว็บไซต์ฝากไฟล์หน้าตาสวยๆ ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้
|
|
wetransfer.com คือ เว็บไซต์ฝากไฟล์ดีไซน์เก๋ๆ และใช้ฟรี ที่สามารถฝากไฟล์ได้ไม่จำกัดจำนวน (แต่แนบไฟล์ใหญ่สุด 2 กิกะไบต์/ไฟล์) ไม่ต้องสมัครสมาชิกใดๆ ไม่ต้องรอดาวน์โหลด และเมื่อผู้รับได้โหลดไฟล์สมบูรณ์แล้วก็ยังมีอีเมล์มาแจ้งให้ผู้ส่งทราบอีกด้วย คุณสมบัติเด่นของเว็บ wetransfer 1. แนบไฟล์ได้ไม่จำกัดจำนวน (ขนาดสูงสุดคือ 2 กิกะไบต์/ไฟล์/การแนบไฟล์ 1 ครั้ง) ต้องการแนบไฟล์เพิ่มกดปุ่มเครื่องหมาย + และส่งให้เพื่อนได้สูงสุด 20 อีเมล์ 2. ไม่ต้องสมัครสมาชิก ไม่มีค่าใช้จ่าย 3. แนบไฟล์ได้ทุกนามสกุล (ถ้าอัปโหลดหลายไฟล์ เมื่อดาวน์โหลดจะทำการซิปไฟล์ให้อยู่ในโฟลเดอร์เดียวอย่างเรียบร้อย) 4. ที่เซิร์ฟเวอร์มีการสแกนไวรัสก่อนอัปโหลด 5. ไฟล์ที่ฝากไว้จะถูกเก็บไว้ในระบบ 2 สัปดาห์ 3 ขั้นตอนการฝากไฟล์ง่ายๆ ที่คุ้นเคย
|
|
แนบไฟล์ > กรอกอีเมล์เพื่อน ถ้าส่งให้หลายคนใส่เครื่องหมายลูกน้ำ (",") คั่นระหว่างอีเมล์ด้วย > กรอกอีเมล์ผู้ส่ง เมื่อเพื่อนได้รับไฟล์และโหลดไฟล์เสร็จสิ้นก็จะมีอีเมล์มาแจ้งให้เราทราบ > กดปุ่ม transfer เพื่ออัปโหลดไฟล์เข้าไปยังระบบ อย่างไรก็ดี wetransfer ยังมีข้อเสียสำหรับผู้ใช้ชาวไทย นั่นคือ เรื่องของภาษา คือถ้าชื่อไฟล์เป็นภาษาไทย เมื่ออัปขึ้นไปยังระบบแล้วจะอ่านชื่อไม่ออกและแสดงผลเป็น ???? และช่องที่ให้กรอกข้อความแนบไปกับตอนส่งไฟล์ก็ไม่สามารถพิมพ์ภาษาไทยได้ นอกจากนี้หากคุณทดลองใช้งานแล้วพบว่า ไม่ได้รับอีเมล์แจ้งเมล์ที่ฝากไว้ ก็ให้สันนิษฐานข้อแรกว่าเมล์จาก wetransfer อาจจะตกไปอยู่ในกล่องอีเมล์สแปม และข้อที่ 2 คือ พิมพ์ที่อยู่อีเมล์ผิดพลาดนั่นเอง หากมีคำถามใดๆ เกี่ยวกับบริการของ wetransfer ก็สามารถคลิกที่นี่ เพื่ออ่านคำถามที่ถามบ่อยๆ ได้ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับ wetransfer ผู้พัฒนาบริการนี้เป็นทีมงานผู้พัฒนาเว็บตั้งแต่ยุคสมัยของเบราว์เซอร์นามว่า Nescape (เนสเกป) จากกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากเว็บไซต์นี้เปิดให้บริการฟรี ซึ่งรายได้หลักของเว็บก็คือ การขายพื้นที่โฆษณาขนาดใหญ่ที่เป็นภาพพื้นหลังของเว็บนั่นเอง เมื่อมองที่มุมขวาล่างเว็บก็จะเห็นชื่อแบรนด์ เมื่อคลิกก็จะลิงก์ไปยังเว็บของสินค้านั้นๆ ทันที |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น