Meeting Party ทุกศุกร์แรกของเดือน ณ iOffice หน้ากองบิน 41 เชียงใหม่

วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2553

Re: อโกด้าเผยรายชื่อ 10 สุดยอดรีสอร์ทอนุรักษ์ธรรมชาติในเอเชีย ประจำปี 2552

เอกสารนี้ถูกนำเข้ามายัง Google Documents ในชื่อของคุณ:
http://docs.google.com/Doc?id=dcgbc9mf_302gs33bbdj&invite=
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ทีม Google Documents

อโกด้าเผยรายชื่อ 10 สุดยอดรีสอร์ทอนุรักษ์ธรรมชาติในเอเชีย ประจำปี 2552




อโกด้า (www.agoda.co.th) บริษัทผู้ให้บริการเว็บไซต์สำรองห้องพักในโรงแรมแบบออนไลน์ซึ่งรับประกัน ราคาห้องพักที่ถูกที่สุดในเอเชีย ได้เปิดเผยรายชื่อ 10 อันดับสุดยอดโรงแรมและรีสอร์ทอนุรักษ์ธรรมชาติในเอเชีย ประจำปี 2552 เพื่อเป็นการสนับสนุนและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวใส่ใจต่อการรักธรรมชาติ โดยโรงแรมและรีสอร์ทเหล่านี้ได้ยึดถือนโยบายสีเขียว ซึ่งเป็นมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นาย ไมเคิล เคนนี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอโกด้า กล่าวว่า "เมื่อสองปีที่แล้ว เราได้ทำการคัดเลือก 10 สุดยอดโรงแรมและรีสอร์ทอนุรักษ์ธรรมชาติในเอเชีย และนับตั้งแต่นั้นมา เราก็พบว่ามีโรงแรมและรีสอร์ทหันมาให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน มากขึ้นเรื่อยๆ นับเป็นเรื่องที่ดีมากที่ได้เห็นผู้ประกอบการแสดงความรับผิดชอบต่อ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างจริงจัง"

สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกโรงแรม อนุรักษ์ธรรมชาตินั้น นอกเหนือจากการส่งเสริมให้แขกผู้เข้าพักนำผ้ากลับมาใช้ซ้ำ หรือใช้เวลาอาบน้ำให้สั้นลงแล้ว อโกด้ายังได้ให้คะแนนพิเศษแก่โรงแรมและรีสอร์ทที่อนุรักษ์สภาพแวดล้อมตาม ธรรมชาติ รวมไปจนถึงการสนับสนุนชาวท้องถิ่นให้ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและนำนโยบายสีเขียว มาปฏิบัติเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน

10 อันดับสุดยอดรีสอร์ทอนุรักษ์ธรรมชาติของอโกด้า ประจำปี 2552 มีดังต่อไปนี้
1) เดอะ ท้องทราย เบย์, เกาะสมุย, ประเทศไทย
รีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ หาดเฉวงแห่งนี้ได้ริเริ่ม "โครงการสีเขียว" เพื่อเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการน้ำเสีย การรีไซเคิล และการประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ ท้องทราย เบย์ รีสอร์ท ยังได้ให้ความช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่นด้วยการก่อตั้ง "โรงเรียนรักษ์สมุย" และร่วมมือกับโรงแรมอีกหลายเพื่อรักษาความงดงามของเกาะสมุยไว้ให้แก่ชนรุ่น หลังสืบต่อไป

2) อลิลา อูบุด และอลิลา แมงกิส, เกาะบาหลี, อินโดนีเซีย
รีสอร์ทที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสองแห่งบนเกาะบาหลีนี้ ติดอับดับท็อปเท็นโรงแรมรักธรรมชาติของอโกด้าในปี 2550 โดยทั้งคู่มีนโยบายที่จะลดผลกระทบในแง่ลบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติหลากหลากหลายชนิด เช่น การเดินป่า การขี่จักรยาน และชั้นเรียนสอนทำอาหาร รวมถึงมุ่งมั่นที่จะให้ความรู้แก่แขกผู้เข้าพักเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมและ วัฒนธรรมของชาวบาหลี

3) โซฟิเทล อังกอร์ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท, กัมพูชา
โซฟิเทล อังกอร์ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทแห่งดียวในกัมพูชาที่เคยได้รับรางวัล "เอเชี่ยน เอเนอร์จี้ อวอร์ด" จากการให้ความร่วมมือกับองค์กรอิสระ Agrisud ในการต่อสู้และขจัดความยากจนให้หมดไปจาก เสียมเรียบ โดยโซฟิเทลได้สนับสนุนผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรท้องถิ่นและจ้างแรงงานจำนวนหลาย ร้อยคน

4) เอล นิโด รีสอร์ท, เกาะมินิลอค, ฟิลิปปินส์
เอล นิโด รีสอร์ท ลดปริมาณของเสียที่จะก่อให้เกิดมลภาวะแก่หมู่แมกไม้และป่าโกงกางที่อยู่รอบๆ ด้วยการรีไซเคิลและอนุรักษ์พลังงานผ่านการใช้หลอดฟลูโอเรสเซนท์ นอกเหนือจากนั้น รีสอร์ทแห่งนี้ยังได้จับมือร่วมกับองค์กรท้องถิ่นในการทำความสะอาดชายฝั่ง และเฝ้าระวังระบบนิเวศน์ รวมทั้งพนักงานของรีสอร์ททุกคนยังต้องเข้าร่วมในการฝึกอบรมสัมมนาที่มีชื่อ ว่า "Be G.R.E.E.N." (Guard, Respect, Educate El Nido) เป็นเวลา 5 วัน

5) เดอะ ฟรานจิพานี่ ลังกาวี รีสอร์ท แอนด์ สปา, มาเลเซีย
เดอะ ฟรานจิพานี่ ลังกาวี ได้นำแนวทางอนุรักษ์ธรรมชาติหลากหลายแนวทางมาประยุกต์ใช้เพื่อลดผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด โดยรีสอร์ทแห่งนี้มีนโยบายที่จะลดการบริโภค บริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ผงซักฟอกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และกรองน้ำทิ้งให้สะอาดด้วยระบบบำบัดน้ำเสีย

6) บันยันทรี, เกาะบินตัง, อินโดนีเซีย
รีสอร์ทหรูหราแห่งนี้ได้รับการออกแบบและวาง แนวคิดเพื่อปกป้องและรักษาป่าเขตร้อนบริเวณรอบๆ ซึ่งอุดมไปด้วยต้นไม้อายุตั้งแต่ 50-100 ปี ไม่เพียงเท่านั้น บันยันทรี บินตัง ยังให้การสนับสนุนการพัฒนาของชาวบ้านและการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นผ่าน เครือข่ายหมู่บ้านและพันธมิตรกว่า 40 แห่งในภูมิภาคดังกล่าว

7) โฮเต็ล เดอ ลา เปย์, กัมพูชา
โรงแรมหรูแห่งนี้ให้ความช่วยเหลือทางด้าน สาธารณูปโภคพื้นฐานแก่ชาวท้องถิ่นและสนับสนุนนกิจกรรมหลากหลายประเภทที่เป็น ประโยชน์ต่อชุมชน เช่น การจัดตั้งศูนย์เย็บปักถักร้อย ซึ่งให้การฝึกอบรมด้านทักษะและความรู้แก่หญิงชาวเขมรที่พิการ รวมถึงการมอบโอกาสให้ผู้เข้าพักได้มีส่วนร่วมในการมอบทุนการศึกษาแก่ นักเรียน หรือบริจาคจักรยาน บ่อน้ำ และหมูแก่ครอบครัวที่กำลังต้องการสิ่งของเหล่านี้

8) เดอะ ออร์คิด โฮเต็ล, มุมไบ, อินเดีย
เดอะ ออร์คิดถือเป็นโรงแรมในเอเชียแห่งแรกที่ได้ประกาศนียบัตร ECOTELยฎ อีกทั้งยังชนะเลิศรางวัลมาแล้วมากกว่า 61 รางวัลตลอดช่วงระยะเวลา 11 ปีที่เปิดให้บริการ โรงแรมแห่งนี้มีถังที่ใช้สำหรับเลี้ยงฟาร์มไส้เดือน 9 ถัง นอกเหนือจากนั้น ยังมีโรงบำบัดน้ำเสียและปุ่มสีเขียวพิเศษสำหรับให้ลูกค้ากดเพื่อเพิ่ม อุณหภูมิภายในห้องขึ้น 2 องศาเซลเซียสเพื่อเป็นการลดการบริโภคพลังงาน

9) โซนีวา ฟูชิ บาย ซิกซ์เซ้นส์เซส, มัลดีฟส์
โซนีวา ฟูชิได้ริเริ่มโครงการสีเขียวไว้มากมาย เช่น โครงการปลูกต้นไม้ การรณรงค์ให้งดรับประทานหูฉลาม และแผนงานลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในประเทศอินเดียโดยหันมาใช้กังหันลม ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีนักชีววิทยาทางทะเลประจำการอยู่ที่รีสอร์ทคอยให้ความรู้แก่แขกผู้เข้า พักและดำลงไปสำรวจใต้มหาสมุทร ที่สำคัญ รีสอร์ทแห่งนี้ยึดถือหลักการสำคัญไว้ข้อหนึ่ง คือ การท่องเที่ยวซึ่งเน้นในด้านกิจกรรมสบายๆ ไม่เร่งรีบ เช่น การเดินชมธรรมชาติ การดูดาว และกีฬาทางน้ำที่ไม่ใช้เครื่องยนต์

10) คิงฟิชเชอร์ เบย์ แอนด์ วิลเลจ เฟรเซอร์ ไอส์แลนด์, ออสเตรเลีย
คิงฟิช เชอร์เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1992 และได้รับรางวัลมาแล้วมากมายในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยได้ก่อตั้งศูนย์วิจัยและศึกษาไว้คอยจับตามองสภาพแวดล้อมของเกาะอย่างใกล้ ชิด รวมถึงจัดอีโค่ ทัวร์ให้ความรู้แก่ ผู้เข้าพักตั้งแต่ในเรื่องป่าโกงกางไปจนถึงวัฒนธรรมของชาวอะบอริจิน รีสอร์ทแหงนี้ยังมีฟาร์มไส้เดือนเพื่อหมักของเสียให้กลายเป็นปุ๋ยและนำกลับ มาใช้กับสวนสมุนไพร

เกี่ยวกับอโกด้า
อโกด้า หรือ Agoda (www.agoda.co.th) เป็นบริษัทผู้นำการให้บริการสำรองห้องพักในโรงแรมแบบออนไลน์ซึ่งรับประกัน ราคาห้องพักที่ถูกที่สุด Agoda เป็นส่วนหนึ่งของ Priceline.com (Nasdaq:PCLN) บริษัทที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยวแบบออนไลน์ชั้นนำของสหรัฐฯ อโกด้ามีโรงแรมในเครือข่ายในภูมิภาคเอเชียกว่า 7,000 แห่ง และมากกว่า 100,000 แห่งทั่วโลกและมีพนักงานหลากหลายเชื้อชาติที่เชี่ยวชาญมากกว่า 350 คน ในสำนักงานในสิงคโปร์และศูนย์บริการข้อมูลในกรุงเทพฯ โดยมีความรู้และสายสัมพันธ์กับโรงแรม ในแต่ละท้องถิ่น จึงสามารถให้บริการได้ดีที่สุดทั้งแก่ผู้ที่เดินทางมาทำธุรกิจและเพื่อพัก ผ่อน

นอกจากนี้ ลูกค้าของ Agoda ยังได้มีส่วนร่วมใน โปรแกรม อโกด้า รีวอร์ดส์ (Agoda Rewards) ซึ่งจะได้รับส่วนลดเพิ่มขึ้นหรือได้ห้องพักฟรี ลูกค้าสามารถนำคะแนนสะสมไปใช้เป็นส่วนลดในทุกโรงแรมหลายพันแห่งบนเว็บไซต์ขอ งอโกด้าโดยไม่จำกัดกลุ่มหรือแบรนด์ของโรงแรมและไม่มีข้อจำกัดเรื่องวันเดิน ทาง ในฐานะสมาชิกของ PATA (Pacific Asia Travel Association) Agoda มีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการท่องเที่ยวด้วยบริการที่ไม่แพงและสามารถเข้า ถึงคนส่วนใหญ่ได้

ข้อมูลประชาสัมพันธ์ ติดต่อ: จิตทิพย์ สุธรรมานุวัตน์ โทรศัพท์: +66 (0) 2 625-9200 ต่อ 5044 อีเมล: Jitthip.Suthammanuwat@agoda.com

เรื่องโดย อโกด้า
วันที่ 30 ตุลาคม 2552

วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2553

Re: privnote l ส่งจดหมายลับแบบทำลายตัวเองได้

เอกสารนี้ถูกนำเข้ามายัง Google Documents ในชื่อของคุณ:
http://docs.google.com/Doc?id=dcgbc9mf_300mhkzqbgk&invite=
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ทีม Google Documents

privnote l ส่งจดหมายลับแบบทำลายตัวเองได้





privnote.com - ส่งจดหมายลับออนไลน์
       

       หลายครั้งที่คุณมี "ความลับ" และอยากจะส่งให้ใครบางคนได้รู้ โดยที่เรื่องปริศนาเหล่านั้นอาจจะเป็นชื่อบัญชี รหัสผ่านบัตรเครดิต หรือแม้แต่ คำบอกรัก ไปจนถึงความในใจที่คุณอัดอั้นมานาน
       
       ฉะนั้นจะมีวิธีไหนที่จะส่งความลับผ่านโลก ออนไลน์ โดยจะไม่ถูกเก็บไว้เป็นหลักฐานในภายหลังได้บ้าง? และถ้าจะให้ดี เมื่อคนนั้นอ่านแล้ว ข้อความจะต้องถูกทำลายเหมือนหนังไซ-ไฟด้วย
       
       privnote คือ เว็บไซต์ที่ช่วยให้คุณสร้างจดหมายลับ แบบที่ส่งไปแล้วจะอ่านได้แค่คนเดียว และครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นข้อความในจดหมายก็จะถูกทำลายหายไปทันที และ ทันทีที่จดหมายนั้นถูกเปิดอ่าน ก็จะมีอีเมล์มาแจ้งคุณอีกทีหนึ่ง

       

       วิธีการเขียนจดหมายลับด้วย privnote
       

       1. เข้าไปที่ https://privnote.com
       
       2. พิมพ์ข้อความได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
       
       3. ถ้าคุณต้องการให้มีอีเมล์มาแจ้งเมื่อมีคนอ่านจดหมายนี้ ให้ติ๊กถูกที่ช่องด้านล่างที่เขียนว่า "Notify me when this note gets read"
       
       4. กดปุ่ม Create Note จากนั้นก็จะได้ลิงก์ยาวๆ ให้คุณคัดลอกแล้วส่งต่อให้เพื่อนทางอีเมล์ หรือ เอ็มเอสเอ็นก็ได้

       

       เมื่อผู้รับได้ลิงก์นี้และกดเปิดอ่านก็จะพบกับข้อความในจดหมาย หากเขา...
       
       * กดปุ่ม refresh เพื่อทำการดาวน์โหลดหน้าเว็บเพจนี้อีกครั้ง
       * ส่งลิงก์นี้ต่อให้เพื่อน
       * ปิดหน้าต่างนี้
       
       ก็จะไม่สามารถอ่านข้อความเดิมได้อีกต่อไป


ตัวอย่างข้อความที่ บอกว่าจดหมายนี้ถูกเปิดไปแล้ว
       

       จริงอยู่ที่ผู้ได้รับจดหมายอาจจะมีโอกาสที่จะกดปุ่ม Print Screen หรือลากเม้าส์ไฮไลท์ข้อความเพื่อคัดลอกข้อความบนหน้าจอได้ แต่อย่างน้อยคุณก็มั่นใจได้ว่าจดหมายฉบับนี้ คนที่ได้รับลิงก์จะเป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้อ่านมัน ถ้าเกิดมีการเผยแพร่ต่อต้องเป็นเขาคนเดียวอย่างแน่นอน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์25 เมษายน 2553 14:52 น.

ชีวิตเมื่อ 100 ปีที่แล้ว

  1. มีเพียง 14 เปอร์เซ็นต์ของบ้านมีอ่างอาบน้ำ.
  2. เฉพาะ 8 เปอร์เซ็นต์ของบ้านมีโทรศัพท์.
  3. สูงสุดความเร็วจำกัดในเกือบทุกเมืองคือ 10 ไมล์ต่อชั่วโมง.
  4. โครงสร้างที่สูงที่สุดในโลกคือ Eiffel ทาวเวอร์!
  5. ในอัตราค่าจ้างโดยเฉลี่ยคือ  7 บาท/ชั่วโมง
  6. เฉลี่ยค่าแรงที่คนงานทำระหว่าง $ 200 และ $ 400 ต่อปี.
  7. พนักงานบัญชีที่สามารถคาดหวังได้ $ 2000 ต่อปี,
  8. หมอฟันเงินเดือน $ 2500 ต่อปีเป็นสัตวแพทย์ระหว่าง $ 1500 และ $ 4000 ต่อปีและวิศวกรช่างกลประมาณ $ 5000 ต่อปี.
  9. มากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของสถานที่ทั้งหมดที่เกิดที่บ้าน
  10. เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ทั้งหมดแพทย์ไม่จบอุดมศึกษา!
  11. แต่พวกเขาเข้าร่วมเพื่อที่เรียกแพทย์โรงเรียนหลายที่
  12. ได้ถูกตราหน้าในกดรัฐบาลเป็น 'ถึงขนาด. '
  13. น้ำตาลต้นทุนสี่เซ็นปอนด์.
  14. ไข่ถูกสิบสี่เซ็นเป็นโหล.
  15. กาแฟเป็นสิบห้าเซ็นต์ปอนด์.
  16. ผู้หญิงส่วนใหญ่ของพวกเขาเท่านั้นล้างผมเดือนละหนึ่งครั้งและใช้ น้ำประสานทองหรือไข่เป็นแชมพู.
  17. แคนาดาผ่านที่กฎหมายห้ามยากจนคนจาก
  18. เข้ามาในประเทศของตนด้วยเหตุผลใดก็ตาม.
  19. ห้าชั้นนำสาเหตุแห่งความตายได้: 1. ปอดบวมและไข้หวัดใหญ่ 2. วัณโรค 3. ป่วง 4. โรคหัวใจ 5. เส้นเลือดในสมองอุดตัน
  20. ธงอเมริกันมีดาว 45 ดาว
  21. ประชากรที่ลาสเวกัส, เนวาดาเป็นมีเพียง 30 คน!!!!
  22. จำนวน 2 ใน 10 คนของผู้ใหญ่ไม่สามารถอ่านหรือเขียน.
  23. จำนวน 6 % ทั้งหมดมีชาวอเมริกันสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม.
  24. มีเจ้าหน้าที่เต็มเวลา 1 คน ที่จะช่วยเมืองทั้งเมือง
  25. มีรายงานเกี่ยวกับ 230 ใน murders ทั้งหมด! U.S.A.! ( ปี 2004 มี 14,124 คน เพิ่มขึ้น 61 เท่า)

Re: ปล่อยนก,ปล่อยปลา,ปล่อยเต่า

เอกสารนี้ถูกนำเข้ามายัง Google Documents ในชื่อของคุณ:
http://docs.google.com/Doc?id=dcgbc9mf_299nqjtdzcp&invite=
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ทีม Google Documents

ปล่อยนก,ปล่อยปลา,ปล่อยเต่า

คนเราสมัย นี้ชอบทำบาปแล้วคิดว่า มันเป็นบุญ มาดูข้อเท็จจริงกั

1
ชีวิตก็มีค่า ทุกชีวิตมีความสำคัญ เรามาร่วมกันเผยแพร่และช่วยทำความเข้าใจในการทำบุญที่เราไม่เข้า ใจถึงผลที่เราจะได้รับ เพราะบุญที่เรากำลังจะทำนั้นมันเป็นชีวิต ของผู้อื่นที่จะได้รับความทุกขเวทนา เพื่อแลกกับความสุขใขของเราเอง

Top 5
ของสัตว์ที่ นิยมปล่อย
อันดับที่
1 ปลาไหล
อันดับที่
2 หอยขม
อันดับที่
3 นก
อันดับที่
4 เต่า
อันดับที่
5 ปลาหมอ

บางเสี้ยวส่วนของความจริงที่ รายการ
' จุดเปลี่ยน ' พบและเป็นความ จริง
-
ปลาไหลขนาด เล็กตัวเป็นๆ นับพับกิโลกรัมต่อวัน ถูกเบียดอัดมาในกระสอบปุ๋ยเดินทาง จากเขมรสู่ประเทศไทยหลายต่อ หลายทอด โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องมีชีวิตไป จนถึงมือคนใจบุญ
-
ปลาไหลที่ ปล่อยลงในน้ำลึกไหลเชี่ยว ไม่สามารถรอดชีวิตอยู่ได้ เพราะธรรมชาติของปลาไหลต้องอยู่ในน้ำแฉะมี ดินโคลนให้มุดเพื่อหลบ พัก
-
หอยขมที่อยู่ ในดินโคลนตามธรรมชาติ เมื่อถูกเทลงสู่ก้นแม่น้ำลึกอย่าง แม่น้ำ เจ้าพระยา หอยก็จมน้ำตายได้เหมือนกัน
-
นกกระติ๊ดจะ สูญพันธุ์ในไม่ช้า เพราะคนจับมาเบียดเสียดในกรงแคบ บางตัวแข้งขาหักตายคากรง ส่วนที่เหลือซึ่งบินจากไปก็บอบช้ำเกินกว่าจะรอดชีวิต และบ้างก็ไม่มีแหล่งหากินในเมือง
-
เต่าเป็นสัตว์ เลื้อยคลาน แต่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นสัตว์ ครึ่งบกครึ่งน้ำ และเ มื่อถูกปล่อยลงน้ำที่ไม่มีสิ่งใดให้ยึดเกาะ เต่าก็จะต้องว่ายน้ำต่อไปจนกว่าจะขาดใจตายเพราะเหนื่อยและหมดแรง
-
เต่าเป็นสัตว์ ที่อายุยืนที่สุดในโลก แต่ถ้าเต่าถูกปล่อยในที่ที่แออัดน้ำเน่า เสียไม่มีที่เกาะ เต่าจะตายอย่างทรมานเพราะอาการเจ็บป่วยที่กระดอง เน่าเปื่อย และจมน้ำตาย กลายเป็นสัตว์ที่น่าสงสารที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง
ทำไมการปล่อยสัตว์ในยุคสมัยนี้จึงมีบาปมากกว่า บุญ

1.
เพราะปล่อยไม่ถูกที่ถูกทาง ทั้งสภาพความเป็นอยู่และศัตรูธรรมชาติ ทำให้สัตว์ที่ปล่อยไปไม่มีโอกาส รอดชีวิต
2.
เพราะส่งเสริม ให้มีการจับสัตว์ที่อยู่ใน ธรรมชาติอย่างปกติสุขมากักขังหน่วง เหนี่ยว ทรมาน
3.
ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจับ กักขัง ขนส่ง และรอจำหน่าย มีสัตว์จำนวนมากต้องตายอย่างทรมาน ก่อนที่จะได้รับอิสรภาพ
สิ่งมีชีวิตแม้จะเล็กเท่าผุ่นละออง แต่นั่น มันก็เท่ากับ
1 ชีวิต...

วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553

Re: ภาพลวงตา.. ดูกี่ทีก็ไม่เบื่อ !!

เอกสารนี้ถูกนำเข้ามายัง Google Documents ในชื่อของคุณ:
http://docs.google.com/Doc?id=dcgbc9mf_299grj9pdgq&invite=
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ทีม Google Documents

ภาพลวงตา.. ดูกี่ทีก็ไม่เบื่อ !!


1.ตกลงคนไหนอยู่ล่างหรือบนกันแน่ 




2.เห็นคลื่นทะเลมั้ย 

 


3.เรือใบหรือกำแพง  

 


4.ลองขยับหัวเข้า-ออกแล้วมองรูปนี้ดูดีๆนะครับ สุดยอดเลยใช่ไหมละ...  

 


5.คนแก่หรือสาวสวย  

 


6.มายาจิต

 
7.เชื่อมั้ยว่ามีปลาโลมาอยู่ในนี้  

 


8.เชื่อไหมว่าเส้นเหล่านี้ จริงๆแล้วตรงครับ 100% ลองวัดดูสิ   

 


9.เห็นจุดสีเทามั้ย  อิอิ  

 


10.กระต่ายหรือเป็ด?  

 


11.เส้นไหนยาวกว่ากัน?? เฉลย = เท่ากันครับ 

 


12.ช้างมีกี่ขา??  

 


13.นี่ก็เส้นตรงนะนี่ ให้ตายเสะ อ๊าก?? 

 


เพิ่งไปที่จุดกากบาทแล้ววงล้อมสีชมพูจะหายไป !!

 


เส้นนี้ตรงจริงๆ  

 


จามองวงกลมด้านไหนดี(ซ้ายหรือขวา)  

 


เชื่อมั้ยว่าเส้นสีแดงยาวเท่ากัน  

 


จิงๆแล้ว มันเป็นวงกลมไม่ใช่ก้นหอย นะจ๊ะ 

 


บันไดขั้นไหนสูงสุดกันแน่นะ 
??  
 



ถ้าลองจ้องที่จุดดำแล้วควันหมอกจะค่อยๆหายไป  

 
เหมือนว่ามันหมุนจะหมุนได้ไช่มั๊ย

 


ทั้งหมดนี้เกิดจากสมองของคุนสั่งการว่าให้คุนเห็นว่าภาพเคลื่อนไหวแต่ความจิงแร้วมันไม่ได้เคลื่อนไหว 

 


คุณเห็นปลากี่ตัวและนกกี่ตัว  

 
คุณเห็นเป็ดหรือกระต่าย  

 
คุณเห็นเป็นคนเป่าเครื่องดนตรีหรือหน้าผู้หญิง  

 


วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553

Re: การปลูกมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์

เอกสารนี้ถูกนำเข้ามายัง Google Documents ในชื่อของคุณ:
http://docs.google.com/Doc?id=dcgbc9mf_299grv832fj&invite=
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ทีม Google Documents

การปลูกมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์


   ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ สำหรับผู้ที่มีพื้นที่ดินน้อยๆ เช่นตามหมู่บ้านจัดสรร ที่พอมีพื้นที่ว่างพอที่จะปลูกต้นไม้ได้บ้าง ไม่มากนัก  ก็พอจะเห็นลู่ทางในการปลูกมะนาวหน้าแล้งไว้รับ ประทานเอง    หลายๆท่านคงจะทราบแล้วครับว่า มะนาวที่ออกจำหน่ายในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ พฤษภาคม ของทุกปีจะมีราคาแพงมาก ผลละ 3-7 บาท โดยบางแหล่ง อาจจำหน่ายแพงกว่านี้ยังเคยมี                      ผมจะขอเล่าถึงการปลูกมะนาวนอกฤดู ซึ่งสามารถปฏิบัติได้เองโดยไม่ยุ่งยาก และไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากนัก จริงๆแล้วการปลูกมะนาวนอกฤดูที่เกษตรกรชาวสวนทำกันเป็นการค้ากันเป็นส่วน ใหญ่ จะใช้สารบังคับเกือบทั้งหมด  เพราะเป็นวิธีที่รวดเร็ว และสามารถทำได้ในพื้นที่มากๆ  แต่มีข้อเสียคือ ชาวสานจะต้องเรียนรู้เทคนิคต่างๆในการทำมาก  ไม่เช่นนั้นแล้ว อาจจะทำให้สวนมะนาวเสียหายทั้งสวนได้    พอมาถึงตรงนี้แล้ว หลายท่านก็คงอยากจะทดลองการปลูกมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์กันแล้วใช่ไหมละ   ขั้นตอนต่างๆ ในการปลูกมะนาวนอกฤดูโดยการปลูกในวงบ่อซีเมนต์ มีดังนี้   
  1. การเตรียมวงบ่อซีเมนต์ ขนาดที่เหมาะสม ควรมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 80-100 เซนติเมตร สูง 40 เซนติเมตร ที่ด้านล่างหรือก้นวงบ่อ มีแผ่นซีเมนต์กลมวางรองอยู่ชนิดที่ไม่เชื่อมกับวงบ่อโดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำที่รดลงไปขังอยู่ชนิด ด้านล่าง และมิให้รากมะนาวแทงลงดินนอกก้นบ่อและแต่ละบ่อควรวางห่างกัน ประมาณ 1.5 เมตร
  2. การเตรียมดิน ขั้นตอนนี้สำคัญ เพราะการจำกัดพื้นที่การปลูกและต้องการให้มะนาวเจริญเติบโต ได้ตามปกติดินที่ใช้จะต้องดี มีความอุดมสมบูรณ์สูง ในการเตรียมดินปลูกทำดังนี้คือใช้อัตราดินร่วน 3 ส่วนผสมกับปุ๋ยหมัก 2 ส่วนหรืออีกสูตรหนึ่งคือดินร่วน 3 ส่วนผสมกับปุ๋ยคอก 1 ส่วน ข้อสำคัญดินที่ใช้ควรเป็นดินชั้นบน หรือหน้าดิน ที่มีความอุดมสมบูรณ์ สูง  โดยนำดินที่ผสมแล้ว ใส่ในวงบ่อซีเมนต์ แล้วพูนดินปลูกขึ้นมาอีกเล็กน้อย
  3. การคัดเลือกพันธุ์มะนาว   ที่จะนำมาปลูกต้องพิจารณาถึง ขนาดของผล ปริมาณน้ำต่อผลการปฏิบัติดูแลรักษาง่าย ทนทานต่อโรค และแมลงและให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งพันธุ์ที่แนะนำได้แก่  มะนาว น้ำหอม  มะนาวตาฮิติ   มะนาวหนังคันธุลี    ส่วนมะนาวแป้นรำไพ   ให้ผลดีเช่นกันแต่เป็นโรคแคง เกอร์มากกว่า
  4.  นำต้นมะนาวจากกิ่ง ตอนหรือต้นปักชำ ที่สมบูรณ์แข็งแรงมาปลูกลงในวงบ่อซีเมนต์ที่จัดเตรียมไว้แล้ว ควรมีการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ 1-3 วันต่อครั้ง นอกจากนี้ควรแสริมปุ๋ยเคมีเพื่อเร่งการเจริญเติบโต โดยใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 รองก้นหลุมก่อนปลูกแล้วใส่หลังจากปลูกทุก 1-2  เดือน อัตรา 1 ช้อนแกง ต่อต้น ส่วนในระยะบังคับให้ออกดอกติดผลควรใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12  อัตรา 1 ช้อนแกงต่อต้น หลังการใส่ปุ๋ยทุกครั้งควรมีการรดน้ำให้ชุ่ม เมื่อมะนาวอายุได้ 8 เดือน หรือ 1 ปีขึ้นไป ให้เริ่มบังคับมะนาวให้ออกดอก ติดผลตามต้องการ
  5. การปลิดดอก และผลมะนาวที่ออกในฤดูกาล หลังจากปลูกมะนาวในวงบ่อได้ประมาณ 6 เดือน มะนาวบางพันธุ์อาจมีการออกดอกติดผลบ้างเล็กน้อย ก่อนถึงช่วงบังคับให้มะนาวออกดอกติดผลในเดือน กันยายน- พฤศจิกายน มะนาวที่ออกดอกก่อนหน้านี้ ควรเด็ดออก หรือปลิดออกทั้งหมด การปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ควรจะเก็บเกี่ยวผลผลิต เฉพาะช่วงนอกฤดูหรือช่วงหน้าแล้งเท่านั้น ไม่ควรปล่อยให้มะนาวออกดอกติดผลอยู่บนต้นตลอดปี มะนาวที่ปลูกในวงบ่อซีเมนต์จะทรุดโทรมเร็วกว่าปกติ
  6. การคลุมโคนต้นด้วยพลาสติก ก่อนถึงช่วงบังคับให้มะนาวออกดอกติดผลนอกฤดูกาล ประมาณ 1 เดือน เช่นบังคับให้มะนาวออกดอกในเดือน กันยายนหรือเดือนตุลาคม   ให้ ผู้ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์งดให้น้ำ ในเดือนสิงหาคม หรือเดือนกันยายน แล้วนำพลาสติก (ผ้าพลาสติกกันฝน) มาคลุมปากวงบ่อด้านโคนต้นไม่ให้น้ำซึมลงไปในดินปลูกภายในวงบ่อ ได้ประมาณ 15-30 วัน ใบมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จะเริ่มเหี่ยวหรือใบร่วง แตกต่างกันในแต่ละพันธุ์
  7. เมื่อสังเกตเห็นมะนาวขาดน้ำ  มีใบเหี่ยว หรือใบร่วงมากแล้ว  ให้นำพลาสติกคลุมโคนต้นออก แล้วดำเนินการให้น้ำและปุ๋ยสูตร 12-24-12 อัตรา 1 ช้อนแกงต่อต้น    เมื่อ มะนาวมีการออกดอกและติดผลแล้ว ควรมีการให้น้ำและปุ๋ยเพื่อบำรุงต้นและผลมะนาวตามปกติ จนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผิตในช่วงฤดูแล้ง
  8.  การเก็บเกี่ยว หลังจากมะนาวออกดอกติดผล ได้ประมาณ 4-5 เดือน ก็สามารถจะเก็บเกี่ยวผลผลิตสู่ตลาดได้  ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละ พันธุ์ ถ้าเป็นมะนาวน้ำหอม มะนาวพันธุ์นี้จะมีน้ำตั้งแต่ผลเล็กๆ ผู้ปลูกสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 3-4 เดือน ถ้าสังเกตมะนาวที่ปลูกในวงบ่อซีเมนต์ มีการติดผลมาก (ผลดก) เมื่อถึงช่วงอายุเก็บเกี่ยวแล้วควรดำเนินการเก็บเกี่ยวสู่ตลาดเลย ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้บนต้นนานๆ ต้นมะนาวจะต้องใช้อาหารมาเลี้ยงหรือบำรุงผลมะนาว เป็นเวลานานกว่าปกติ ต้นมะนาวอาจทรุดโทรมได้ง่าย และควรระมัดระวัง อย่าให้กิ่งฉีกหัก และผลมะนาวช้ำ จะวางตลาดได้ไม่นาน
  9. การตัดแต่งกิ่ง หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตมะนาวนอกฤดูกาล(มะนาวหน้าแล้ง) หมดแล้ว ควรมีการตัดแต่งกิ่งที่ฉีกหัก กิ่งที่แตกกิ่งไม่เป็นระเบียบ กิ่งที่เป็นโรคหรือกิ่งที่ไม่สมบูรณ์ออก
  10.  การใส่ปุ๋ยและเพิ่มดินปลูกหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตและ ตัดแต่งกิ่งมะนาว ที่ปลูกในวงบ่อแต่ละปีแล้ว ควรนำดินร่วนผสมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ที่สลายตัวแล้ว 1 ส่วนผสมให้เข้ากันดีแล้วนำมาใส่เพิ่มในวงบ่อให้เต็มปากบ่อ มีลักษณะพูนขึ้นมาเล็กน้อย และใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 1.5 ช้อนแกง ต่อต้น รดน้ำดูแลรักษามะนาวในวงบ่อซีเมนต์ให้สมบูรณ์ แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อบังคับให้ออกดอกติดผลในปีต่อไป
                   สำหรับท่านที่มีพื้นที่บริเวณบ้าน หรือบริเวณสวนหลังบ้าน    ไม่มากนักและมีความสนใจอยากจะทดลองปลูกมะนาวนอกฤดูกับเขาบ้าง  ก็ลองศึกษาองค์ความรู้ที่ได้เล่าไปแล้วข้างต้นและนำไปปฏิบัติดูนะ ครับ  

วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2553

Re: เคาะขายแล้ว! สมบัติ "ชิง" ทุบสถิติราคาประมูลโลก

เอกสารนี้ถูกนำเข้ามายัง Google Documents ในชื่อของคุณ:
http://docs.google.com/Doc?id=dcgbc9mf_295gxbvvmfk&invite=
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ทีม Google Documents

เคาะขายแล้ว! สมบัติ "ชิง" ทุบสถิติราคาประมูลโลก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์9 เมษายน 2553 12:16 น.
นางแบบสวมสร้อยมุกที่ฮ่องเต้สวมในงานพิธีหลวง เคาะขาย 8.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
       เอเอฟพี--และแล้วโซเทอบีส์ก็เปิดห้องประมูลขายสมบัติงานศิลปะของราชวงศ์ชิงในวันพฤหัสฯที่ 8 เม.ย. โดยในงานมีการสู้ตัดราคากันดุเดือด ในที่สุด สร้อยมุกที่สวมในงานพิธีหลวงของจักรพรรดิหย่งเจิ้ง ก็เคาะขายที่ราคา 8.7 ล้านเหรียญสหรัฐ! สูงกว่าราคาประเมิน (1 ถึง 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ)
       
       
ส่วนสมบัติชิ้นเอกอีกชิ้น คือ ตราประทับหยกขาวของจักรพรรดิเฉียนหลง ก็เคาะขายออก ที่ราคา 12.29 ล้านเหรียญสหรัฐ! สูงกว่าราคาประเมิน (6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ)
       
       ในงานเดียวกัน ยังมีการเคาะขายแหวนเพชรสีน้ำเงิน (เพชรสีที่หายาก) รูปทรงผลแพร์ 5.16 กะรัต ในราคาสูงเกินคาดเช่นกัน ที่ 6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเมินก่อนหน้า อยู่ระหว่าง 4 ถึง 7 ล้านเหรียญสหรัฐ
       
       งานนี้ ตอกย้ำถึงรสนิยมชาวเอเชียที่ถีบตัวสูงอย่างรวดเร็ว โซเทอบีส์ยังชี้ว่า ฮ่องกงได้กลายเป็นแหล่งประมูลใหญ่อันดับสามของโลกแล้ว ตามหลังนิวยอร์ก และลอนดอน โดยมีปัจจัยหนุนเนื่องจากกลุ่มมั่งคั่งที่ขยายตัว และรสนิยมงานศิลปะที่สูงขึ้นๆในประเทศจีน. (ภาพเอเอฟพี)

ตราประทับหยกขาวของจักรพรรดิเชียนหลง เคาะขาย 12.29 ล้านเหรียญสหรัฐ!
       

แหวนเพชรสีน้ำเงิน (เพชรสีที่หายาก) รูปทรงผลแพร์ 5.16 กะรัต! ที่จะถูกเคาะขาย 6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ

Re: งานศิลปะชุดใหม่

เอกสารนี้ถูกนำเข้ามายัง Google Documents ในชื่อของคุณ:
http://docs.google.com/Doc?id=dcgbc9mf_295d2sf53wf&invite=
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ทีม Google Documents

งานศิลปะชุดใหม่

งานศิลปะชุดใหม่เอี่ยมอ่องของคริส จอร์แดน (Chris Jordan)  ชื่อว่า  Running the Number    
งานภาพถ่ายชุดนี้เป็นที่โจษขานอย่างมากในหมู่นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมในรอบหลายปีที่ผ่านมา  
ซึ่งไม่บ่อยนักที่งานภาพถ่ายจะถูกนักสิ่งแวดล้อมนำไปต่อยอดกันอย่างมากมายขนาดนี้  

งานภาพถ่ายซีรี่ย์นี้เป็นบิ๊กไอเดียที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 
2006  จนถึงปัจจุบัน  
คริส จอร์แดนเรียกงานของเขาว่าเป็น  An American Self-Portrait 
เป็นการมองวัฒนธรรมร่วมสมัยของอเมริกาผ่านคมเลนส์ที่ฉาบไว้ด้วยข้อมูลทางสถิติ  
หัวใจของงานชุดนี้ก็คือ การแปลงตัวเลขเกือบนามธรรมให้กลายเป็นภาพที่แสน จะเป็นรูปธรรม 

คริสมองว่า   ปัญหาสิ่งแวดล้อมทุกวันนี้เกิดจากการที่พวกเราร่วมมือร่วมใจกันสร้างปัญหาคนละไม้ คนละมือโดยไม่รู้ตัว
ผลกระทบเล็กๆ ที่เราก่อทิ้งไว้นั้น ไม่มีใครคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะเราเห็นแต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากมือ เรา
แต่เราไม่เคยรู้เลยว่า เมื่อมันถูกนำไปรวมกับผลกระทบเล็กๆ จากมือคนอื่นแล้วสุดท้ายมันยิ่งใหญ่ขนาดไหน 
ข้อมูลอย่าง คนอเมริกันใช้ถุงพลาสติก   60,000  ใบทุก  5  วินาที  
ถึงจะฟังดูใหญ่ยิ่ง แต่มันก็เป็นเพียงตัวเลขบนกระดาษที่ยากจะจินตนาการตามว่ามันมากมายแค่ไหน  
คริสก็เลยเปลี่ยนตัวเลขเหล่านั้นให้เป็นภาพถ่ายขนาดใหญ่ยักษ์  
ให้เห็นกันไปเลยว่าถุงพลาสติก  60,000  ใบมันเยอะแค่ไหน  
ดูแล้วไม่ช็อกก็ไม่รู้จะว่ายังไง  

ความสนุกของการดูงานชุดนี้ก็คือ การตั้งคำถามกับภาพขนาดใหญ่ก่อนว่า มันคืออะไร  

จากนั้นก็ค่อยๆ ซูมเข้าไปทีละนิด ทีละนิด  
แล้วเดากันไปเรื่อยว่าภาพที่เห็นตรงหน้าคืออะไร  
พอร้องอ๋อ ก็รับข้อมูลกันไปว่า มนุษย์เราบริโภคทรัพยากรกันมากมายเพียงใด  
ลองมาดูตัวอย่างกันสักหน่อยไหมครับ   
 


.  



.  




ภาพของขวดน้ำพลาสติก   2,000,000  ใบ เท่ากับจำนวนขวดน้ำพลาสติกที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา ทุก   นาที 

 


.  



.  




ภาพของกระป๋องอะลูมิเนียม   106,000  ใบ เท่ากับจำนวนที่กระป๋องที่ใช้ในสหรัฐอเมริกาทุก   30  วินาที 


.  



.  




ภาพของโทรศัพท์มือถือ   426,000  เครื่อง เท่ากับจำนวนโทรศัพท์มือถือที่ถูกทิ้งในสหรัฐอเมริกาในแต่ละวัน 


.  



.  



  

ภาพของตุ๊กตาบาร์บี้  
32,000  ตัว เท่ากับจำนวนของผู้ที่ผ่าตัดเสริมหน้าอกในแต่ละเดือนของสหรัฐอเมริก า ในปี   2006  
  

.  



.  



.  




ภาพของเศษพลาสติก  2.4  ล้านชิ้น เท่ากับจำนวนขยะจากพลาสติกจำนวน  2.4  ล้านปอนด์ ที่ถูกปล่อยลงสู่มหาสมุทรทั่วโลก ในแต่ละชั่วโมง  
พลาสติกทั้งหมดที่นำมาใช้ในงานนี้ถูกเก็บมาจากมหาสมุ ทรแปซิฟิก  
  
นอกจากนี้ก็ยังมีภาพอีกมากมายหลายประเด็น อาทิ  
ภาพแก้วน้ำพลาสติก  1,000,000  ใบ ซึ่งเท่ากับจำนวนแก้วน้ำพลาสติกที่ใช้ในเครื่องบินในสหรัฐอเมริกาทุก  6  ชั่วโมง  
ภาพของกระดาษที่ใช้ในสำนักงาน  30,000  รีม ซึ่งเท่ากับจำนวนที่ใช้ในสำนักงานในสหรัฐอเมริกา ทุก  5  นาที  
ภาพยูนิฟอร์มของนักโทษ  2.3  ล้านตัว ซึ่งเท่ากับจำนวนผู้ถูกจองจำในคุกของสหรัฐอเมริกาในปี  2005  ถือว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีนักโทษถูกคุมขังมากที่สุดในโลก  
ภาพของธนบัตรใบละ  100  ดอลลาร์ จำนวน  125,000  ใบ ซึ่งเท่ากับงบประมาณที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาใช้ในสงครามอิรัก ในแต่ละชั่วโมง 

ภาพของข้อมูลของคริสเป็นสิ่งที่น่าตกใจ  
แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ นี่เป็นแค่ข้อมูลของประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวเท่านั้น 
ถ้าว่ากันทั้งโลก ข้อมูลจะน่าตื่นตะลึงกว่านี้เพียงใด  
สิ่งที่เราคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก อาจไม่ได้เล็กอย่างที่คิดก็ได้  
ต้องขอบคุณคริส จอร์แดนที่ทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่