Meeting Party ทุกศุกร์แรกของเดือน ณ iOffice หน้ากองบิน 41 เชียงใหม่

วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2553

Re: เคาะขายแล้ว! สมบัติ "ชิง" ทุบสถิติราคาประมูลโลก

เอกสารนี้ถูกนำเข้ามายัง Google Documents ในชื่อของคุณ:
http://docs.google.com/Doc?id=dcgbc9mf_295gxbvvmfk&invite=
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ทีม Google Documents

เคาะขายแล้ว! สมบัติ "ชิง" ทุบสถิติราคาประมูลโลก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์9 เมษายน 2553 12:16 น.
นางแบบสวมสร้อยมุกที่ฮ่องเต้สวมในงานพิธีหลวง เคาะขาย 8.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
       เอเอฟพี--และแล้วโซเทอบีส์ก็เปิดห้องประมูลขายสมบัติงานศิลปะของราชวงศ์ชิงในวันพฤหัสฯที่ 8 เม.ย. โดยในงานมีการสู้ตัดราคากันดุเดือด ในที่สุด สร้อยมุกที่สวมในงานพิธีหลวงของจักรพรรดิหย่งเจิ้ง ก็เคาะขายที่ราคา 8.7 ล้านเหรียญสหรัฐ! สูงกว่าราคาประเมิน (1 ถึง 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ)
       
       
ส่วนสมบัติชิ้นเอกอีกชิ้น คือ ตราประทับหยกขาวของจักรพรรดิเฉียนหลง ก็เคาะขายออก ที่ราคา 12.29 ล้านเหรียญสหรัฐ! สูงกว่าราคาประเมิน (6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ)
       
       ในงานเดียวกัน ยังมีการเคาะขายแหวนเพชรสีน้ำเงิน (เพชรสีที่หายาก) รูปทรงผลแพร์ 5.16 กะรัต ในราคาสูงเกินคาดเช่นกัน ที่ 6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเมินก่อนหน้า อยู่ระหว่าง 4 ถึง 7 ล้านเหรียญสหรัฐ
       
       งานนี้ ตอกย้ำถึงรสนิยมชาวเอเชียที่ถีบตัวสูงอย่างรวดเร็ว โซเทอบีส์ยังชี้ว่า ฮ่องกงได้กลายเป็นแหล่งประมูลใหญ่อันดับสามของโลกแล้ว ตามหลังนิวยอร์ก และลอนดอน โดยมีปัจจัยหนุนเนื่องจากกลุ่มมั่งคั่งที่ขยายตัว และรสนิยมงานศิลปะที่สูงขึ้นๆในประเทศจีน. (ภาพเอเอฟพี)

ตราประทับหยกขาวของจักรพรรดิเชียนหลง เคาะขาย 12.29 ล้านเหรียญสหรัฐ!
       

แหวนเพชรสีน้ำเงิน (เพชรสีที่หายาก) รูปทรงผลแพร์ 5.16 กะรัต! ที่จะถูกเคาะขาย 6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ

Re: งานศิลปะชุดใหม่

เอกสารนี้ถูกนำเข้ามายัง Google Documents ในชื่อของคุณ:
http://docs.google.com/Doc?id=dcgbc9mf_295d2sf53wf&invite=
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ทีม Google Documents

งานศิลปะชุดใหม่

งานศิลปะชุดใหม่เอี่ยมอ่องของคริส จอร์แดน (Chris Jordan)  ชื่อว่า  Running the Number    
งานภาพถ่ายชุดนี้เป็นที่โจษขานอย่างมากในหมู่นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมในรอบหลายปีที่ผ่านมา  
ซึ่งไม่บ่อยนักที่งานภาพถ่ายจะถูกนักสิ่งแวดล้อมนำไปต่อยอดกันอย่างมากมายขนาดนี้  

งานภาพถ่ายซีรี่ย์นี้เป็นบิ๊กไอเดียที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 
2006  จนถึงปัจจุบัน  
คริส จอร์แดนเรียกงานของเขาว่าเป็น  An American Self-Portrait 
เป็นการมองวัฒนธรรมร่วมสมัยของอเมริกาผ่านคมเลนส์ที่ฉาบไว้ด้วยข้อมูลทางสถิติ  
หัวใจของงานชุดนี้ก็คือ การแปลงตัวเลขเกือบนามธรรมให้กลายเป็นภาพที่แสน จะเป็นรูปธรรม 

คริสมองว่า   ปัญหาสิ่งแวดล้อมทุกวันนี้เกิดจากการที่พวกเราร่วมมือร่วมใจกันสร้างปัญหาคนละไม้ คนละมือโดยไม่รู้ตัว
ผลกระทบเล็กๆ ที่เราก่อทิ้งไว้นั้น ไม่มีใครคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะเราเห็นแต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากมือ เรา
แต่เราไม่เคยรู้เลยว่า เมื่อมันถูกนำไปรวมกับผลกระทบเล็กๆ จากมือคนอื่นแล้วสุดท้ายมันยิ่งใหญ่ขนาดไหน 
ข้อมูลอย่าง คนอเมริกันใช้ถุงพลาสติก   60,000  ใบทุก  5  วินาที  
ถึงจะฟังดูใหญ่ยิ่ง แต่มันก็เป็นเพียงตัวเลขบนกระดาษที่ยากจะจินตนาการตามว่ามันมากมายแค่ไหน  
คริสก็เลยเปลี่ยนตัวเลขเหล่านั้นให้เป็นภาพถ่ายขนาดใหญ่ยักษ์  
ให้เห็นกันไปเลยว่าถุงพลาสติก  60,000  ใบมันเยอะแค่ไหน  
ดูแล้วไม่ช็อกก็ไม่รู้จะว่ายังไง  

ความสนุกของการดูงานชุดนี้ก็คือ การตั้งคำถามกับภาพขนาดใหญ่ก่อนว่า มันคืออะไร  

จากนั้นก็ค่อยๆ ซูมเข้าไปทีละนิด ทีละนิด  
แล้วเดากันไปเรื่อยว่าภาพที่เห็นตรงหน้าคืออะไร  
พอร้องอ๋อ ก็รับข้อมูลกันไปว่า มนุษย์เราบริโภคทรัพยากรกันมากมายเพียงใด  
ลองมาดูตัวอย่างกันสักหน่อยไหมครับ   
 


.  



.  




ภาพของขวดน้ำพลาสติก   2,000,000  ใบ เท่ากับจำนวนขวดน้ำพลาสติกที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา ทุก   นาที 

 


.  



.  




ภาพของกระป๋องอะลูมิเนียม   106,000  ใบ เท่ากับจำนวนที่กระป๋องที่ใช้ในสหรัฐอเมริกาทุก   30  วินาที 


.  



.  




ภาพของโทรศัพท์มือถือ   426,000  เครื่อง เท่ากับจำนวนโทรศัพท์มือถือที่ถูกทิ้งในสหรัฐอเมริกาในแต่ละวัน 


.  



.  



  

ภาพของตุ๊กตาบาร์บี้  
32,000  ตัว เท่ากับจำนวนของผู้ที่ผ่าตัดเสริมหน้าอกในแต่ละเดือนของสหรัฐอเมริก า ในปี   2006  
  

.  



.  



.  




ภาพของเศษพลาสติก  2.4  ล้านชิ้น เท่ากับจำนวนขยะจากพลาสติกจำนวน  2.4  ล้านปอนด์ ที่ถูกปล่อยลงสู่มหาสมุทรทั่วโลก ในแต่ละชั่วโมง  
พลาสติกทั้งหมดที่นำมาใช้ในงานนี้ถูกเก็บมาจากมหาสมุ ทรแปซิฟิก  
  
นอกจากนี้ก็ยังมีภาพอีกมากมายหลายประเด็น อาทิ  
ภาพแก้วน้ำพลาสติก  1,000,000  ใบ ซึ่งเท่ากับจำนวนแก้วน้ำพลาสติกที่ใช้ในเครื่องบินในสหรัฐอเมริกาทุก  6  ชั่วโมง  
ภาพของกระดาษที่ใช้ในสำนักงาน  30,000  รีม ซึ่งเท่ากับจำนวนที่ใช้ในสำนักงานในสหรัฐอเมริกา ทุก  5  นาที  
ภาพยูนิฟอร์มของนักโทษ  2.3  ล้านตัว ซึ่งเท่ากับจำนวนผู้ถูกจองจำในคุกของสหรัฐอเมริกาในปี  2005  ถือว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีนักโทษถูกคุมขังมากที่สุดในโลก  
ภาพของธนบัตรใบละ  100  ดอลลาร์ จำนวน  125,000  ใบ ซึ่งเท่ากับงบประมาณที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาใช้ในสงครามอิรัก ในแต่ละชั่วโมง 

ภาพของข้อมูลของคริสเป็นสิ่งที่น่าตกใจ  
แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ นี่เป็นแค่ข้อมูลของประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวเท่านั้น 
ถ้าว่ากันทั้งโลก ข้อมูลจะน่าตื่นตะลึงกว่านี้เพียงใด  
สิ่งที่เราคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก อาจไม่ได้เล็กอย่างที่คิดก็ได้  
ต้องขอบคุณคริส จอร์แดนที่ทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่   

วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553

MoodTurn l ปรับอารมณ์ให้ดี ด้วยดนตรีบำบัด

www.moodturn.com
       

       ถ้าคุณเห็นด้วยกับทุกข้อด้านล่าง ได้แก่ ...
       
        
ใช้เวลากับจอคอมพ์มากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน
        
โกรธแฟนทันควันเมื่อเขาโทรมาไม่ตรงเวลา 
        
เกลียดรังสีอัลตร้าไวโอแลตยามออกไปทานกลางวัน
        
มึนหัวทั้งวันเมื่อฟังปราศัยการเมือง
       
       ก็แปลว่าคุณกำลังอยู่ใน
ภาวะตึงเครียด และต้องการต้องการการบำบัด และการบำบัดด้วยดนตรี (Music Theraphy) น่าจะเป็นทางเลือกที่สะดวก ประหยัด และผ่อนคลายที่สุด
       
       
MoodTurn.com คือ เว็บไซต์ที่ให้คุณได้ปรับสมดุลย์อารมณ์ด้วยการใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุดจากทางการชมภาพวิวสวยๆ พร้อมเสียงซาวน์เอฟเฟกต์ของธรรมชาติในบรรยากาศต่างๆ เช่น เสียงคลื่นซัดฝั่ง เสียงนกร้องในป่า เป็นต้น

       

       โดยรูปแบบของเสียงจะมีให้เลือก 4 แบบหลัก คือ เสียงบรรยากาศในป่าดงดิบ เสียงนกร้อง เสียงฝนตกและมีลมพายุ และเสียงคลื่นกระทบฝั่งริมหาด ทั้งหมดสมจริงเหมือนปลีกวิเวกไป ณ ที่แห่งนั้นจริงๆ ส่วนภาพแบคกราวน์ก็จะมีให้เลือกหลายภาพให้สอดคล้องกับแต่ละเสียง

       

       อย่างไรก็ดี คุณสามารถฟังเสียงและดูภาพต่างๆ ที่จะวนไปเรื่อยๆ โดยไม่มีสะดุดตลอดหลายชั่วโมง โดยไม่ต้องไปกดปุ่มใดๆ เลย

       

       แค่คลิกเดียวก็สามารถเปลี่ยนชีวิตชิดธรรมชาติ (ที่หน้าจอแอลซีดี) ได้แล้ว นอกจากนี้เว็บไซต์ MoodTurn ยังเหมาะกับเปิดในร้านสปาอีกด้วย
       
       หมายเหตุ: คุณสามารถคลิกขวาที่ภาพถูกใจ แล้วบันทึก เพื่อนำไปเป็นวอลเปเปอร์บนจอคอมพิวเตอร์ของตัวเองได้
       
       
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเว็บไซต์ MoodTurn
       

       ผู้พัฒนาเว็บไซต์นี้คือ Ramunas Geciauskas นักพัฒนาซอฟท์แวร์ และเว็บแอปพลิเคชันที่เป็นทั้งดีไซน์และโปรแกรมในคนๆ เดียว จากประเทศลิทัวเนีย (Lithuania)
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2553 15:48 น.

Re: เปิดประวัติ KFC เรื่องราวของนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้

เอกสารนี้ถูกนำเข้ามายัง Google Documents ในชื่อของคุณ:
http://docs.google.com/Doc?id=dcgbc9mf_290gsjbfm3q&invite=
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ทีม Google Documents

เปิดประวัติ KFC เรื่องราวของนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้



KFC, ประวัติ KFC, เคเอฟซี, ผู้พันแซนเดอร์ส, ไก่ทอด

มีชายคนหนึ่ง พ่อของเขาเสียชีวิตตอนที่เขาอายุได้เพียงห้าขวบเขาต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน ขณะอายุ 16 ปี ตอนอายุ 17 ปี เขาแสดงความสามารถพิเศษด้วยการตกงานติดต่อกันถึง 4 ครั้งเขาแต่งงานตอนอายุ 18 ปี ปีถัดมาเขาได้เป็นพ่อคนแต่ชีวิตคู่ของเขาก็มีความสุขอยู่ได้ไม่นานนัก อายุ 20 ปี ภรรยาของเขาพาลูกสาวหนีไปเพราะทนใช้ชีวิตกับเขาไม่ได้ช่วงอายุ 18-22 ปี เขาประกอบอาชีพเป็นคนขายตั๋วรถไฟแล้วก็ล้มเหลวแต่เขาก็ยังต่อสู้กับชีวิตด้วยการหาโอกาสให้ชีวิต แต่ทุกอย่างที่เขาทำก็ไม่วายล้มเหลวเหมือนเดิมเขาสมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพแต่ก็ถูกขับออกมาหันเหมาสมัครเข้าโรงเรียนกฎหมาย แต่ด้วยความสามารถอันเอกอุเขาถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดีแล้วเขาก็ไปทำงานเป็นพนักงานขายประกัน แน่นอนที่สุดเขาล้มเหลวอีกครั้ง (แล้ว)

แค่เกริ่นมาข้างต้นก็คงไม่ต้องบอกว่า ชายคนนี้ทำอะไรไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง !แต่ก็อย่างว่าแหละ คนเราอะไรมันจะไม่ได้เรื่องไปเสียหมดสิ่งเดียวที่เขาพบว่า เขาทำได้ดีก็คือ การทำอาหารดังนั้นเขาจึงไปทำงานเป็นพ่อครัวและคนล้างจานในร้านกาแฟเล็กๆ แห่งหนึ่ง แต่นั่นก็ไม่ใช่ชีวิตที่ทรงคุณค่าอะไรเลยในความคิดของเขาชีวิตที่ร้านกาแฟ เขามีเวลามากมายที่จะนั่งคิดและทำอะไรได้มากพอสมควรแต่เขากลับเลือกใช้เวลานั่งคิดถึงภรรยาและลูกสาวของเขาเขาเพียรพยายามติดต่อภรรยาและอ้อนวอนให้เธอกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง แต่ได้รับคำปฏิเสธ

เขาเปลี่ยนความคิดใหม่ เขาไม่ต้องการภรรยาอีกต่อไป ขอเพียงแต่ได้ลูกสาวกลับคืนมาก็พอเพราะเขารักและคิดถึงเธอเหลือเกินเขาใช้เวลาว่างในร้านกาแฟวางแผนในการนำลูกสาวกลับคืนมาสู่อ้อมอกของตนเขาวางแผนทุกขั้นตอนละเอียดยิบ คำนวณทุกฝีก้าวในที่สุดแผนการอันแสนยาวนานก็เสร็จสิ้นลงเมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ คุณพ่อวัยรุ่นผู้น่าสงสารซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้นอกบ้านหลังเล็กๆ ของภรรยาของเขาเฝ้ามองลูกสาวของเขาเล่นอยู่หน้าบ้านและเตรียม พร้อมที่จะ "ลักพาตัวเธอ!"แล้ววันที่ตั้งใจไว้ก็มาถึง เขาซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้อย่างระมัดระวัง แม้จะรู้สึกกังวล ตื่นเต้น และตระหนกอยู่บ้างแต่นั่นมิอาจเทียบได้กับความรักที่เขามีต่อลูก เขาตัดสินใจที่จะต้องลงมือทำให้สำเร็จ แต่แล้วอนิจจา

วันนั้นลูก สาวของเขาไม่ออกมาเล่นหน้าบ้านเลยแม้กระทั่งความพยายามในการก่ออาชญากรรม เขาก็ยังล้มเหลวเขารู้สึกเหมือนคนที่พ่ายแพ้ต่อโชคชะตา รู้สึกเหมือนคนไม่มีค่าและเหมือนพระเจ้ากำหนดมาแล้วว่าเขาจะต้องอยู่เพียงลำพังไปตลอดชีวิตแต่เหมือนปาฏิหาริย์ ในที่สุดเขาก็สามารถโน้มน้าวภรรยาให้กลับมาอยู่ด้วยกันได้พวกเขาทำงานด้วยกันในร้านกาแฟแห่งนั้น ทำอาหารและล้างจานอยู่จนกระทั่งเขาเกษียณ ตอนอายุ 65 ปี

วันแรกของการเกษียณอายุ เขาได้รับเช็คเงินประกันสังคมฉบับแรกของเขา เป็นเงิน 105 ดอลลาร์(ราวสี่พันบาท)เช็คดังกล่าวเหมือนเป็นตัวแทนของรัฐที่ฝากมาบอกเขาว่า เขาไม่อาจจะดูแลตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือใช้ชีวิต อยู่จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยเงินสนับสนุนจากรัฐบาลมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขารู้สึกถูกปฏิเสธ ล้มเหลว เสียกำลังใจ และท้อแท้ชีวิตของเขาได้รับความผิดหวังอีกครั้งหนึ่งหลังจาก 65 ปีอันยาวนานเขาบอกกับตัวเองว่าถ้าเขาดูแลตัวเองไม่ได้ ต้องมีชีวิตอยู่โดยให้รัฐบาลดูแลเขาก็ไม่สมควรจะมีชีวิตอีกต่อไป เขาตัดสินใจ (อีกแล้ว) ว่า "จะฆ่าตัวตาย"

เขาหยิบกระดาษหนึ่งแผ่นกับดินสอหนึ่งแท่งนั่งลงใต้ต้นไม้ในสวนหลังบ้านอย่างสงบ ตั้งใจที่จะเขียนคำสั่งเสียและพินัยกรรมแต่แทนที่จะทำเช่นนั้น กลับเหมือนมีอะไรมาดลใจ เหมือนเป็นครั้งแรกที่ชีวิตเกิดปัญญาเขาเริ่มต้นเขียนสิ่งที่เขาควรจะเป็น ชีวิตที่เขาควรจะมี และสิ่งที่เขาปรารถนาในช่วงชีวิตสุดท้ายที่เหลืออยู่เขาตกใจมาก เมื่อค้นพบความจริงในชีวิตว่า เขายังไม่เคยทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันกับเขาสักอย่างเลย ! (เพิ่งนึกได้)

เขานั่งครุ่นคิดกับตัวเองอย่างจริงจัง มีบางอย่างที่เขาสามารถทำได้บางอย่างที่คนที่รอบตัวทำสู้เขาไม่ได้ ใช่ ! เขารู้วิธีปรุงอาหารชีวิตเกือบทั้งหมดของเขา อยู่ที่หน้าเตาร้อนๆ มาตลอด เขาตัดสินใจกับตัวเองอีกครั้งในที่สุดเขาเลือกที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อทำอะไรสักอย่างในชีวิตให้ประสบความสำเร็จเขาตั้งใจว่าถ้าเขาจะตาย เขาก็อยากจะตายในแบบที่ได้ลองพยายามเป็นใครสักคนและทำบางสิ่งบางอย่างที่มีค่าด้วยชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนิดของเขาเขาลุกจากเงาไม้ มุ่งหน้าไปยังธนาคารในเมือง เพื่อขอยืมเงินจำนวน 87 ดอลลาร์จากเช็คประกันสังคมฉบับต่อไปของเขาด้วยเงิน 87 ดอลลาร์นั้น เขาซื้อกล่องเปล่าและไก่จำนวนหนึ่ง

จากนั้นเขาก็กลับไปที่บ้านและลงมือทอดไก่ที่ซื้อมาด้วยสูตรพิเศษที่เขาได้คิดค้นขึ้นมาในช่วงหลายปีที่ทำงานที่ร้านกาแฟนั้นเขาเริ่มขายไก่ทอดของเขาตามบ้านต่างๆ ในเมืองคอร์บิน รัฐเคนตั๊กกี้ของเขาแล้วคนขายไก่ทอดอายุ 65 ปีคนนั้นก็กลายมาเป็นผู้พันฮาร์แลนด์ แซนเดอร์สราชาผู้เป็นที่รักของอาณาจักร Kentucky Fried Chicken หรือที่เรารู้จักกันในนาม KFC นั่นเองตอนอายุ 65 ปี เขาเป็นเหมือนอนุสรณ์แห่งความล้มเหลวที่ยังมีชีวิต แต่ในวัย 85 ปีเขาก็กลายเป็นเศรษฐีพันล้านและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก มีผู้คนให้เกียรติเขาทั่วประเทศ

เรื่องราวชีวิตของผู้พันแซนเดอร์ส เป็นอีกบทหนึ่งของเรื่องราวความสำเร็จที่ได้รับคำยกย่องจากผู้คนทั่วโลก แต่ใครจะรู้บ้างว่าหากใต้ต้นไม้วันนั้นผู้พันแซนเดอร์สได้ทำตามที่เขาตั้งใจไว้แต่แรกตำนานไก่ทอดสะท้านโลกก็คงจะไม่มีให้เราได้เห็นกัน จริงอย่างที่เขาว่า ความสำเร็จกับความล้มเหลวห่างกันเพียงแค่พลิกฝ่ามือมันอยู่ที่ว่าคุณเลือกที่จะ "สู้ต่อ" หรือ "ยอมแพ้"

สำหรับผู้พันแซนเดอร์ส 65 ปี ของชีวิตที่ล้มเหลว เทียบคุณค่าอะไรไม่ได้เลยกับ 20 ปีแห่งความสำเร็จแล้วชีวิตของคุณหละ ล้มเหลวมากพอหรือยัง ?