Meeting Party ทุกศุกร์แรกของเดือน ณ iOffice หน้ากองบิน 41 เชียงใหม่

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

7 สิ่งที่ควรหยุดทำทันทีใน Facebook (ดูไว้เป็นอุทาหรณ์)

บทความนี้เรียบเรียงจาก   7 Things to Stop Doing Now on Facebook by Consumer Reports Magazine Wednesday, May 12, 2010 

เป็นคำกล่าวของ Charles Pavelites,   ผู้ชำนาญการพิเศษของหน่วยงาน   ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากอาชญากรรมทางอินเตอร์เนต  

อย่าให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวคุณมากนักบน Facebook และที่ Online อื่นๆ
เอาล่ะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศสเปน มีผู้หญิงคนหนึ่งได้โพสรูปของเธอ ซึ่งเป็นรูปที่เธอดูดีบน Facebook แน่นอนว่ามีคนขอเธอเป็นเพื่อนมากมาย และเธอก็รับทั้งหมด หนึ่งในนั้นเป็นผู้ชายที่เริ่มขอเจอเธอ และคาดว่าอยากมี sex กับเธอ เธอปฏิเสธเขาแต่เนื่องจากเธอใส่ที่อยู่ , เบอร์โทรศัพท์ และรายละเอียดอื่นๆ เขาไปหาเธอตามที่อยู่นั้น        และ รูปด้านล่าง คือ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ


 

 

 

 

 

 
 
ฉะนั้น 7 สิ่งที่ควรหยุดทำทันทีใน Facebook คือ
 
1. ใช้รหัสผ่านแบบง่าย ๆ
หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อธรรมดา   หรือคำทั่วไปที่สามารถหาพบได้ในพจนานุกรม หรือแม้แต่ตัวเลขที่ลงท้ายรหัสผ่านดังกล่าว ควรใช้การผสมระหว่าง ด้านหน้า ด้านหลังตัวอักษร ด้วยตัวเลข   หรือสัญลักษณ์ รหัสผ่านควรมีแปดตัวอักษรอย่างน้อย เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งคือ
การเพิ่มตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ระหว่างกลางคำผ่าน

2. ระบุวันเดือนปีเกิดในข้อมูลสาธารณะ
โจรภัยทางข้อมูลแบบเบื้องต้น ผู้ไม่หวังดีมักจะใช้ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวคุณ เพราะมันจะมีประโยชน์อย่างมากในการเข้าถึงข้อมูลธนาคารหรือบัตรเครดิต ถ้าคุณได้ระบุวันเกิด ให้กลับไปที่ข้อมูลส่วนตัว เข้าไปแก้ไขข้อมูลส่วนตัว ระบุข้อมูลพื้นฐานคือ ไม่แสดงวันเกิดในข้อมูลส่วนตัว หรือ แสดงเฉพาะวันและเดือนเกิดในหน้าข้อมูลส่วนตัว  

(การติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบัตรเครดิต มักจะต้องตอบข้อมูลเรื่องนี้ด้วย)

3. ตรวจสอบการใช้งานของข้อมูลส่วนตัว
ข้อมูลทั้งหมดใน Facebook คุณควรกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงของเพื่อน หรือเพื่อนของเพี่อน หรือตัวคุณเอง เช่น   การเข้าชมรูปภาพ วันเกิด ศาสนา และข้อมูลของครอบครัว หรือสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณเอง เช่น ข้อมูลในการติดต่อ  เบอร์โทรศัพท์ สถานที่อยู่ ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะบุคคลหรือกลุ่มที่สามารถจะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว หรือจัดการบล็อก(ห้าม)บุคคลบางคน   หรือไม่ให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว

4. ระบุชื่อบุตรหลาน โดยมีข้อความที่อธิบายหรือตำบรรยายใต้ภาพประกอบ
ใม่ควรระบุชื่อบุตรหลานหรือป้ายกำกับ( tags) หรือ มีคำอธิบาย/บรรยายรายละเอียดใต้ภาพ และถ้าได้มีคนอื่นหรือเพื่อนคุณทำเช่นว่านั้นก็ขอให้ช่วยแก้ไขหรือลบออกพร้อมกับป้ายกำกับด้วย แต่ถ้าชื่อบุตรหลานของคุณไม่ได้อยู่ใน Facebook   แต่ได้มีบางคนได้ระบุข้อมูลดังกล่าวไว้ใน ป้ายกำกับ( tags) หรือ หรือมีคำอธิบายหรือบรรยายรายละเอียดใต้ภาพ ก็ขอให้เจ้าของข้อมูลดังกล่าวแก้ไข/ลบออกด้วย

(เป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีใช้ข้อมูลดังกล่าว ในการก่ออาชญากรรมบางเรื่องได้ง่าย เพราะรู้ว่าเป็นลูกหลานของใครมีฐานะการเงินเป็นเช่นไร)

5. การบอกว่า กำลังออกจากบ้าน
เป็นนัยที่สื่อความหมายว่า ไม่มีใครอยู่ในบ้าน หรือคล้ายเป็นการปิดป้ายว่า ไม่อยู่ ไว้ที่หน้าบ้านเช่นกัน ให้รอจนคุณกลับถึงบ้านแล้วค่อยบอกถึงการผจญภัยหรือความสนุกสนาน ในการเดินทางหรือการใช้วันหยุดพักผ่อน   โดยอาจจะไม่ต้องระบุ วันเดือนปีที่เดินทางก็ได้ หรือระบุวันเดือนปีที่เดินทางให้คลุมเครือไม่ชัดเจน

6. การปล่อยให้ Facebook ค้นหา พบคุณ
เพื่อป้องกันคนแปลกหน้าเข้าถึงหน้าข้อมูลของคุณ ให้ไปที่การค้นหาของ Facebook ข้อมูลส่วนตัว และเลือกเฉพาะเพื่อนเท่านั้นของ Facebook ที่จะค้นพบข้อมูลดังกล่าว และให้มั่นใจว่ากล่องข้อมูลสาธารณะไม่ได้ระบุให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้

7. อย่าให้เด็กใช้ Facebook โดยไม่ตรวจสอบควบคุม
แม้ว่า Facebook จะไม่อนุญาตให้เด็ก อายุต่ำกว่าสิบสามขวบหรือยังไม่ถึงเกณฑ์ใช้งาน แต่หลายคนก็ทำการปลอมอายุเข้าไปใช้ได้ ถ้าคุณมีเด็กหรือวัยรุ่นในความปกครองใช้ Facebook วิธีการที่ดีที่สุดในการตรวจสอบและควบคุม คือ การเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่มเพี่อนของเขา หรือให้ใช้ email ของคุณแทนในการติดต่อระหว่างบัญชีของเขา เพื่อที่คุณจะได้รับข้อความหรือตรวจสอบการใช้งานของเขา

เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไร กลับกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างง่ายดาย

ยกตัวอย่างเช่น มีเด็กคนหนึ่งมักจะบอกว่า " แม่กำลังจะกลับบ้านแล้ว ฉันต้องไปล้างจาน" มักจะบอกทุก ๆ วัน ในเวลาเดิมเสมอ  มันเป็นการบอกเวลาที่ชัดเจนมาก เกี่ยวกับการเดินทางไปกลับของพ่อแม่

(บอกช่วงเวลาที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ที่บ้าน คนร้ายอาจกะระยะเวลาก่อกรรมทำชั่วได้ง่ายขึ้น)

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น