Meeting Party ทุกศุกร์แรกของเดือน ณ iOffice หน้ากองบิน 41 เชียงใหม่

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เศรษฐีกับยาจก นั้นต่างกัน!?

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์7 กรกฎาคม 2553 03:53 น.

"บ้านคือวิมาน" แต่บ้านของผู้นำประเทศร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก กับ บ้านของผู้นำประเทศยากจนที่สุดแห่งหนึ่งในโลกนั้น ช่างแตกต่างกัน
       
ASTVผู้จัดการออนไลน์— สิ่งที่เรียกกันว่า “บ้าน” ของจูเลีย กิลลาร์ด (Julia Gillard) นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งออสเตรเลีย กับ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน นั้นช่างแตกต่างกันมาก ทั้งๆ ที่บุคคลทั้งสองเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยด้วยกัน ในระบบที่มี 2 สภาเช่นกัน และ มาจากการเลือกตั้งเช่นเดียวกัน 
       
       ต่างกันเนื่องจากบ้านของนายกฯ ออสเตรเลีย เป็นบ้านชั้นเดียวหลังเล็ก สามารถเรียกว่า "กระต๊อบ" ได้ เมื่อเทียบกับคฤหาสน์ "วิมานเอกราช" (Vimean Ekareach) ในกรุงพนมเปญ อันเป็น "บ้าน" ของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ดอกเตอร์ฮุนเซน
       
       มันแตกต่างกันอย่างเป็นเท่าทวี เมื่อกระต๊อบของกิลลาร์ด อยู่ในดินแดนที่ร่ำรวยที่สุดอีแห่งหนึ่งในโลก ออสเตรเลียมีประชากร 22,410,165 คน ผลผลิตมวลรวมภายใน (2552) มีมูลค่า 851,170 ล้านดอลลาร์ รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรต่อปี 38,910 ดอลลาร์
       
       แต่คฤหาสน์ของผู้นำกัมพูชา ตั้งอยู่ในดินแดนที่ยากจนสุดๆ ของโลก กว่าครึ่งหนึ่งของประชากร มีชีวิตอยู่ใต้เส้นแบ่งขีดความยากจนขององค์การสหประชาชาติ ดำรงชีพอยู่ด้วยรายได้เฉลี่ยไม่ถึง 1 ดอลลาร์ในแต่ละวัน
       
       กัมพูชามีประชากรประมาณ 14,805,000 คน ผลผลิตมวลรวมภายในปีที่แล้ว 11,453 ล้านดอลลาร์ รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรต่อปี 805 ดอลลาร์
       
       จูเลีย กิลลาร์ด เข้าดำรงตำแหน่งนายกฯ คนใหม่ของพรรคแรงงานในวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นเป็นรองนายกฯ อยู่ 3 ปี ต่อสู้ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยมาเป็นเวลากว่า 20 ปี
       
       นายกรัฐมนตรีกัมพูชาครองอำนาจมาติดต่อกันเป็นปีที่ 24 นับตั้งแต่กองทัพเวียดนามนำขึ้นสู่อำนาจในกรุงพนมเปญในเดือน ม.ค.2522 พร้อมกับผู้นำคนอื่นๆ ของพรรคประชาชนกัมพูชาในปัจจุบัน


ภาพจากอินเทอร์เน็ต นายกฯ ออสเตรเลีย เมื่อครั้งที่เปิดกระต๊อบ... เอ่อออ บ้าน เลี้ยงบาร์บีคิวกับสมาชิกครอบครัวและเพื่อนบ้าน
       ฮุนเซนแพ้การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ที่องค์การสหประชาชาติจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2536 แต่อาศัยที่มีกองทัพและกำลังตำรวจอยู่ในมือ ทำให้สามารถต่อรองทางการเมืองจนได้เป็น "นายกรัฐมนตรีคนที่ 2" ได้ แต่ต่อมาในปี 2539 ก็ได้ทำรัฐประหารโค่น สมเด็จฯ กรมหลวงรณฤทธิ์ "นายกรัฐมนตรีคนที่ 1" ลงจากอำนาจ
       
       เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ระบอบฮุนเซนใช้ทั้งกฎหมายและอำนาจเถื่อนกำจัดคู่แข่งทางการเมืองไปทีละคนๆ ในที่สุดก็ชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นในปี 2551
       
       พรรคประชาชนกัมพูชาชุมนุมรำลึกวันครบรอบการก่อตั้งสัปดาห์ที่แล้ว ประกาศจะส่งฮุนเซน ลงสมัครรับเลือกตั้งในอีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นผู้นำรัฐบาลต่อไป
       
       ปัจจุบันออสเตรเลียเป็นประเทศผู้บริจาครายหนึ่ง ที่ให้่ความช่วยเหลือแก่กัมพูชาประจำทุกปี.


นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเปิดวิมานเอกราช ต้อนรับแกนนำพรรคเผา... เอ่อออ เพื่อไทย วันที่ 14 ธ.ค.ปีที่แล้วในภาพแฟ้มของเอเอฟพี นั่นคือเหตุการณ์ปล่อยตัว "จารชน" ชาวไทยอันอื้อฉาว ก่อนหน้านี้ก็ได้เปิดต้อนรับนักโทษชายหนีคดีจากประเทศไทยแล้วครั้งหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น