Meeting Party ทุกศุกร์แรกของเดือน ณ iOffice หน้ากองบิน 41 เชียงใหม่

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เสี่ยตันโออิชิ' กับ 20 ปีชีวิตรัก...ที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

ขอขอบคุณ : ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2552 17:21 น.
       หากพูดถึงชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ คงไม่มีใครไม่รู้จัก "ตัน ภาสกรนที" หรือ "ตันโออิชิ" ประธาน บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อายุ 50 ปี ลูกชายคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 6 คนของครอบครัวคนจีนที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ และตั้งรกรากในจังหวัดชลบุรี ด้วยฐานะทางบ้านที่ไม่ค่อยดี ทำให้ผู้ชายคนนี้จบเพียงชั้นม.3 และเริ่มทำงานแบกของตอนอายุ 17 ปี จนมีธุรกิจเป็นของตัวเองครั้งแรกเมื่ออายุ 21 ปี 
       
       
จากวันนั้นถึงวันนี้ ชีวิตมีทั้งล้ม และยืนสลับกันไป แต่ก็สามารถผ่านทุกอย่าง และยืนหยัดได้ด้วยตัวเองอย่างมีสติ เพราะการเริ่มต้นจากศูนย์ และความล้มเหลวที่สอนให้เขาเรียนรู้ จนประสบความสำเร็จได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงที่มาจากการสร้างฐานะด้วยตัวเอง แต่ถึงกระนั้นน้ำพักที่ช่วยให้เขามีน้ำแรงนั้น คงต้องยกให้ “อิง-สุนิสา สุขพันธ์ถาวร” ภรรยาที่อยู่เคียงข้าง และคอยให้กำลังอยู่ตลอดเวลา
       
       บัดนี้รวมเวลาได้ 20 ปีแล้ว กับความรักที่ทั้งสองมีให้แก่กัน พร้อมกับมีพยานรัก 2 คน คือ "น้องเก็ท" และ "น้องใกล้ใกล้" ทำให้ทีมงาน Life and Family ไม่พลาดที่จะควงแขนทั้งคู่ มาเปิดประเด็นเรื่องความรักที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงของพวกเขาทั้งสองกันครับ
       
       
*** เริ่มมีรัก เมื่อเกิดรักแรกพบ
       
       เมื่อพูดถึงรักแรกพบ คุณตัน เล่าย้อนภาพให้ฟังว่า ครั้งแรกที่ได้เจอกับคุณอิง (ภรรยา) เธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อย เรียนเก่ง จิตใจดี อ่อนหวาน มีอายุห่างกับเขาประมาณ 11 ปี สมัยที่คบกันใหม่ๆ คุณอิงอยู่ในช่วงของวัยเรียน ส่งผลให้พ่อแม่ฝ่ายหญิง ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการคบหาดูใจกัน แต่ในที่สุด เขาก็พิสูจน์ และเอาชนะใจพ่อแม่ของคุณอิงได้สำเร็จ ด้วยความพยายาม ความขยัน และความจริงใจที่มีให้กับลูกสาวของท่านคนนี้
       
       ขณะที่คุณอิง เปิดเผยว่า ก่อนได้ฤกษ์แต่งงานกัน เธอดูใจกับคุณตันมานาน 11 ปี ระหว่างคบหาดูใจกันนั้น คุณตันเป็นผู้ชายที่เอาใจเก่ง เวลาต้องการอะไร จะรู้ทุกอย่าง เรียกได้ว่า เก็บรายละเอียดได้หมด พร้อมกันนี้ ยังคอยเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลา ทั้งขณะที่คบหากัน และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน นอกจากนี้ คุณตันยังมีความเป็นผู้ใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง ส่งผลให้ใช้ชีวิตแบบสบายๆ อะไรก็ได้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ใกล้ รู้สึกมีความสุข อบอุ่นทุกเวลา และทุกนาที่ได้สัมผัส
       
       
*** เส้นทางที่ชีวิต...ที่มีกันและกัน
       

       ทั้งก่อน และหลังแต่งงาน คุณตัน และคุณอิง ได้ใช้ชีวิตคู่ที่ดีมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งสองจะเป็นเพื่อนคู่คิด และจะไม่ปิดบังเรื่องใดๆ ต่อกัน แต่จะเปิดใจพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน จากความไว้ใจ และความเชื่อใจ ทำให้ทั้ง 2 คนสามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเรื่องงาน หรือเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องงาน ที่ถึงแม้จะทำงานด้วยกัน ซึ่งหลายคนอาจมองว่า สามี-ภรรยาทำงานด้วยกันไม่ดี เพราะจะทะเลาะกันได้ง่าย
       
       แต่สำหรับเธอกับคุณตันแล้ว สามารถแบ่งแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาจมีความคิดไม่ตรงกันบ้างในห้องประชุม แต่เมื่อออกจากห้องประชุม เรื่องที่ไม่ลงรอยทางความคิด จะจบลงตั้งแต่ในห้องประชุม ไม่เอามาปนกับอารมณ์ส่วนตัวนอกห้องประชุมเด็ดขาด

       “คุณตันจะเป็นที่ปรึกษาในทุกๆ เรื่อง ซี่งแนวความคิดหลายๆ อย่าง สร้างความสบายใจให้กับเราได้มาก และเนื่องในโอกาสวันสำคัญต่างๆ เช่น วันครบรอบแต่งงาน หรือวันเกิด จะไม่มีความพิเศษอะไร มีแค่เพียงพากันออกไปกินข้าวนอกบ้าน และมอบดอกไม้ 1 ดอกให้กับเราเท่านั้น” คุณอิงเล่าถึงความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณตันมอบให้กับเธอ
       
       และถึงแม้จะเป็นผู้ชาย แต่คุณตันยังถือคติที่ว่า 
“กลัวเมียแล้วจะรุ่ง” ดังนั้น ไม่ว่าจะเรื่องเงิน หรือเรื่องอื่นๆ ที่ต้องใช้ความละเอียด เขาจะให้ภรรยาเป็นคนดูแล เนื่องจากภรรยาจะบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี ซึ่งช่วยเป็นทัพหลังคอยควบคุม ทำให้เงินที่ได้จากการทำธุรกิจ มีความเป็นระบบ และระเบียบมากขึ้น
       
       
*** "ยอมได้ก็ยอม" เคล็ดลดรอยร้าวการครองคู่
       
       กับแนวคิดนี้ คุณตันได้นำไปใช้แก้ปัญหาทั้งชีวิตครอบครัว และธุรกิจจนผ่านพ้นปัญหาต่างได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องในครอบครัว ซึ่งคุณตันจะไม่มีนิสัยที่มาบอกว่า "ครั้งนี้ผมถูก ผมจะไม่ยอมคุณเด็ดขาด" แต่เขาจะเป็นฝ่ายขอโทษ และยอมรับผิดในทุกๆ เรื่อง ซึ่งบ่อยครั้ง ตัวเขาเข้าใจว่า ผู้หญิงต้องมีอารมณ์บางช่วงที่หาเหตุผลไม่เจอกันบ้าง ดังนั้นถ้าเรื่องไหนยอมได้ก็จะยอม
       
       
"วูบอารมณ์หงุดหงิดเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะเราต้องทำงานด้วยกัน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า ถ้าขึ้นแล้ว จะควบคุมมันอยู่หรือเปล่า แต่สำหรับผม ถึงแม้ว่าจะผิด หรือไม่ผิด ผมก็จะคุกเข่าขอโทษภรรยาไว้ก่อน ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าอาย หรือเสียเกียรติลูกผู้ชาย แต่ผมกลับคิดว่าเป็นสิ่งที่ลูกผู้ชายต้องอ่อนให้เป็นบ้าง ไม่ใช่แข็ง หรือจะเอาชนะฝ่ายหญิงเพียงอย่างเดียว ซึ่งถึงแม่ว่าจะแพ้ แต่ก็แพ้บนของความชนะ และมันก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น” คุณตันเล่าถึงเคล็ดการลดรอยร้าว

       *** สามีคนนี้ ยอมคุกเข่าได้ทุกสถานการณ์
       
       ด้าน 
"คุณอิง" ภรรยาคนสวย การันตีคำพูดของคุณสามีว่า คุณตันจะเป็นผู้ใหญ่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะเป็นผู้ชายที่ยืดหยุ่น และจะให้อภัยอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าตัวเธอจะหงุดหงิดแบบไม่มีเหตุผล คุณตันก็ไม่เคยถือสา หรือใส่ใจกับอารมณ์ชั่ววูบของผู้หญิง นั่นเพราะเขาเข้าใจ เขาจึงรู้ ซึ่งถ้าเป็นสามีคนอื่นๆ คงเกิดเรื่อง หรืออารมณ์ขึ้นไปแล้ว แต่สำหรับผู้ชายคนนี้ จะให้เกียรติภรรยาในทุกๆ เรื่อง เวลาร้อนจะไม่มีการใส่ไฟเพิ่ม แต่จะเป็นน้ำคอยให้ฝ่ายตรงข้ามเย็น ปลอบประโลมให้สงบอยู่เสมอ
       
       
"ถึงแม้ภายนอกคุณตันจะดูเป็นนักธุรกิจที่เก่ง แต่ถ้ากลับบ้านแล้ว คุณตันจะกลายเป็นพ่อบ้านที่ดี สามีที่ดี และพ่อที่น่ารักของลูกๆ ทุกคน ซึ่งจะไม่เอาเรื่องใดๆ มาสร้างความกังวลใจให้กับเรา และลูก หรือเวลาเราโกรธ อารมณ์ไม่ดี เขาก็จะเข้ามาคุกเข่าต่อหน้าเรา เพื่อขอโทษเรา ซึ่งเราก็ตกใจ ตอนนั้นบอกได้เลยว่า จากอารมณ์โมโห กลายเป็นความอ่อนใจ และใจอ่อนไปในทันที" คุณอิงเล่าถึงผู้ชายที่ยอมคุกเข่าขอโทษเธอได้ทุกสถานการณ์ ถึงแม้จะไม้เป็นฝ่ายผิดก็ตาม
       
       
*** เสี่ยตัน...สุภาพบุรุษ ที่หนึ่งในใจ "อิง"
       
       20 ปี ที่เธอได้รู้จัก และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคุณตัน เธอบอกว่า ผู้ชายคนนี้เป็นสามีที่สมบูรณ์แบบมาก ปกติแล้วเธอเป็นคนที่มีลูกเองไม่ได้ ต้องไปทํากิ๊ฟท์ทุกครั้ง พอมีลูกคนที่สองเธอ ทํามาสิบกว่ารอบ ซึ่งพอรอบที่สิบ ทำให้เธอต้องนอนอยู่โรงพยาบาลประมาณ 9-10 เดือน ลุกไปไหนไม่ได้เลย เพราะถ้าลุก ลูกจะหลุดทันที ซึ่งกว่าจะได้ลูกแต่ละคนมา ล้วนยากเย็ญมาก โดยเฉพาะ ‘น้องใกล้ใกล้’ ที่มีโอกาสรอดเพียง 50-50 และต้องอยู่ใน ICU ตลอด

       "ช่วงที่อิงนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ถึงกับต้องย้ายสำนะโนครัว และสัมภาระต่างๆ ไปอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งหมด นอนอยู่กับที่มาเกือบปี ซึ่งตอนนั้นไปทำลูกคนที่สอง (น้องใกล้ใกล้) ถ้าไม่ได้คุณตัน อิงคงแย่ไปแล้ว เพราะอิงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย แม้กระทั่งลุกไปเข้าห้องน้ำ
       
       
แต่คุณตันถึงแม้จะมีธุรกิจที่ต้องทำ เขาก็พร้อมสละเวลามาดูแลเราอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่รังเกียจเลยว่าจะต้องเสิร์ฟกระโถนให้เรา นั่นทำให้เรารู้สึกว่า ถ้าเขาไม่มีความรัก หรือความจริงใจให้กับเราสุดๆ เขาคงไม่กล้าทำอะไรแบบนี้" คุณอิงเล่าถึงความซึ้งใจที่คุณตันทำให้เธอมาโดยตลอด ไม่ว่าจะสุข หรือยากลำบากก็ไม่เคยทอดทิ้ง
       
       
*** คำสารภาพจากใจเสี่ยตัน ถึงภรรยา
       
       กับความรู้สึกที่มีต่อภรรยาคนนี้ ถึงวันนี้ คุณตันเผยจากหัวใจเลยว่า "ภรรยาคนนี้สุดยอดอยู่แล้ว ไม่มีเขา ผมไม่มีวันนี้ เพราะเขาทุ่มเททุกอย่างให้กับครอบครัวด้วยความจริงใจ โดยเฉพาะลูก ที่เขาแทบแลกด้วยชีวิต เพราะเขาเป็นคนมีลูกยาก ซึ่งเขามีความอดทนสูงมาก รวมถึงหน้าที่ของภรรยา ที่ทำเกินหน้าที่ไปแล้ว ดังนั้นเพื่อแลกกับความรัก และความจริงใจทั้งหมด ผมจะเป็นสามีที่ดีให้กับเธอตลอดชีวิต"
       
       อย่างไรก็ดี คุณตันได้ฝากไปถึงคู่ชีวิตทุกคู่ว่า 
"การที่คนๆ หนึ่งจะรัก และอยู่ด้วยกันได้ยั่งยืนนั้น สิ่งแรกที่ต้องมีคือ การให้เกียรติกัน ให้อภัยต่อกัน รวมทั้งความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในบางโอกาส ดังนั้นขอให้อยู่กับความสุขใกล้ตัวเรา ไม่ควรไปไขว่คว้า หรือไปเปรียบเทียบกับความสุขของคู่ชีวิตคนอื่นๆ เพราะนั่นจะสร้างความทุกข์ให้กับคู่รักของเราเองได้" คุณตันฝาก
       
       
จากจุดเริ่มต้นของพ่อค้าธรรมดาคนหนึ่ง ได้พบรักกับลูกคุณหนู ที่ยอมสละความสบาย มาร่วมกันสร้างฐานะจากจุดที่เรียกว่าติดลบ จนชีวิตติดบวกได้จนถึงวันนี้ นั่นเพราะคุณค่าแห่งรักที่ทั้งสองได้มอบให้แก่กัน ไม่ว่าจะให้เกียรติ ให้อภัย และให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกันมาตลอดเส้นทางชีวิต 20 ปี (ดูใจ 11 ปี บวกกับชีวิตหลังแต่งอีก 9 ปี) มีทั้งสุข และทุกข์สลับกันไป แต่สุดท้ายก็ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ จนฝ่าอุปสรรคทั้งหลายมาได้ด้วยดี
       

       
และวันนี้ทั้งสองมีบทบาทของพ่อแม่ที่ต้องทำ ซึ่งทีมงานเชื่อว่า จากพื้นฐานความรักที่มีให้แก่กัน จะเป็นตัวถ่ายโอนดีเอ็นเอแห่งความรัก และความสุขให้กับลูกทั้ง 2 คน ("น้องเก็ท" และ "น้องใกล้ใกล้") ได้อย่างเต็มที่ และพร้อมเติบใหญ่เป็นคนคุณภาพในสังคมที่เก่ง-ดี-มี-สุขต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น